ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงาน

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ในอนาคต (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“บริษัท”) จึงจัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“ประกาศ”) เพื่ออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยประกาศฉบับนี้จะครอบคลุมถึงท่านซึ่งเป็น ผู้สมัครงานกับบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน

นิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อมแต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งอาจก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
“ฐานทางกฎหมาย” หมายถึง เหตุที่กฎหมายรองรับให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ทั้งนี้ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้สมัครงาน” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งแสดงความประสงค์จะเข้ารับการคัดเลือกหรือสัมภาษณ์งาน เพื่อทำสัญญากับบริษัทเป็นพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว รวมถึงพนักงานรับเหมาค่าแรง หรือบุคลากรในตำแหน่งอื่นใดที่ทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ให้กับบริษัท และได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ และค่าตอบแทนอื่น ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรเพื่อตอบแทนการทำงาน ทั้งนี้ ไม่ว่าจะแสดงความประสงค์ด้วยตนเองมายังบริษัทโดยตรง หรือผ่านการดำเนินการของบริษัทจัดหางานภายนอก หรือองค์กรภายนอกอื่นใด
“ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน” หมายถึง บุคคลอื่นซึ่งผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้กับบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง บุคคลซึ่งผู้สมัครงานได้อ้างอิงไว้ในเอกสารสมัครงาน สมาชิกในครอบครัวของผู้สมัครงาน บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งนี้ ตามความจำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ของบริษัทที่แจ้งในประกาศฉบับนี้

ข้อมูลระบุตัวตนและข้อมูลติดต่อทั่วไป ได้แก่ คำนำหน้า ชื่อ ชื่อสกุล อายุ เพศ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ อาชีพ ที่อยู่ปัจจุบันหรือที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน รูปภาพ ลายมือชื่อ สถานะการสมรส สถานะครอบครัว หมายเลขโทรศัพท์ อีเมลส่วนตัว เป็นต้น
ข้อมูลตามเอกสารอ้างอิง ได้แก่ ข้อมูลตามประวัติการสมัครงาน (Curriculum Vitae / Resume) ข้อมูลในใบสมัครงาน ข้อมูลเอกสารอื่น ๆ (เช่น กรณีมีการแนบเอกสารเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร) เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลอ้างอิงหรือติดต่อฉุกเฉิน ได้แก่ คำนำหน้า ชื่อ ชื่อสกุล ความสัมพันธ์กับผู้สมัคร อาชีพ/ตำแหน่ง ที่อยู่ สถานที่ทำงาน ข้อมูลติดต่อ ของบุคคลอ้างอิง/ติดต่อฉุกเฉิน เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาและการฝึกอบรม ได้แก่ ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม หนังสือรับรองคุณวุฒิ ใบแสดงผลการศึกษาความสามารถด้านภาษา ข้อมูลการอบรมและการทดสอบ กิจกรรมที่เข้าร่วมระหว่างศึกษา เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน ได้แก่ ทักษะในการทำงาน ทักษะภาษา ความรู้พิเศษ ประสบการณ์และประวัติการทำงาน สถานที่ทำงานเก่า และปัจจุบัน ระยะเวลาการทำงานในอดีตถึงปัจจุบัน ตำแหน่งงานและเงินเดือนที่ต้องการ วันที่สมัครงาน เป็นต้น
ข้อมูลการประเมินผลการสัมภาษณ์งานโดยบริษัท ได้แก่ ผลการประเมินทักษะ ข้อคิดเห็นต่อตัวผู้สมัคร ผลการสัมภาษณ์ เป็นต้น
ข้อมูลโทรทัศน์วงจรปิด ได้แก่ ภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่งที่บันทึกด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัท
ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการสมัครงาน ได้แก่ ข้อมูลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบขับขี่ สำเนาใบสำคัญการผ่าน เกณฑ์ทหาร สำเนาหนังสือรับรองการทำงาน สำเนาหนังสือรับรองเงินเดือน สำเนาสลิปเงินเดือน ข้อมูลทะเบียนบ้าน สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนักและส่วนสูง โรคประจำตัว ผลการตรวจสุขภาพ (ใบรับรองแพทย์) อุณหภูมิร่างกาย ความพิการ เป็นต้น

หมายเหตุ กรณีที่ท่านให้รายละเอียดของบุคคลที่สามอื่นใด หรือกรณีข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่บริษัทเก็บ รวบรวมจากท่านตามประกาศฉบับนี้ ท่านมีหน้าที่ต้องแจ้งให้บุคคลที่สามดังกล่าวทราบถึงกรณีที่ท่านนำข้อมูลของบุคคลดังกล่าวมาเปิดเผย ต่อบริษัท รวมถึงแจ้งรายละเอียดในประกาศฉบับนี้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าว

แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมดังต่อไปนี้

จากตัวท่านเองโดยตรง โดยผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งดังต่อไปนี้
  • ผ่านทางวาจา ได้แก่ กรณีการพูดคุยต่อหน้า หรือทางโทรศัพท์ เป็นต้น
  • ผ่านทางเอกสาร ได้แก่ แบบฟอร์มใบสมัครงาน จดหมายแนะนำตัว ประวัติย่อการทำงาน (Curriculum Vitae / Resume) หรือเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสมัครงานของบริษัท เป็นต้น
  • ผ่านทางช่องทางการติดต่ออื่น ได้แก่ อีเมล โทรสาร ช่องทางการติดต่อออนไลน์ เช่น เว็บไซต์จัดหางานที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้สำหรับการสมัครงานในตำแหน่งที่บริษัทเปิดรับสมัคร เว็บไซต์ของบริษัท หน้า Facebook ของบริษัท เป็นต้น
จากแหล่งอื่นๆ หรือ บุคคลที่สาม
  • ได้แก่ บุคลากรของบริษัทที่ท่านได้ฝากให้ช่วยเหลือในการติดต่อประสานงานเรื่องการสมัครงานของท่าน องค์กรนายหน้าจัดหางาน บุคคลที่ท่านได้อ้างอิงในใบสมัครงานเพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของท่าน หรือองค์กรอื่นที่ท่านได้เคยหรือได้ทำงานให้ องค์กรของรัฐ เป็นต้น
  • ได้แก่ ผู้สมัครงานกับบริษัทซึ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับท่าน

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำไปใช้และ/หรือเปิดเผยภายใต้วัตถุประสงค์และโดยอาศัยฐานทางกฎหมายตามที่ปรากฏ ในประกาศฉบับนี้เท่านั้น หากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากที่ปรากฏในประกาศนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ/หรือแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ใหม่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวอีกครั้ง รวมถึงบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใหม่ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทต้องได้รับความยินยอม ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ฐานทางกฎหมาย
1. การพิจารณาใบสมัคร การนำข้อมูลมาใช้และเปิดเผยเป็นการภายในบริษัทเพื่อใช้ประกอบการสัมภาษณ์ การประเมินความสามารถ คุณสมบัติ และความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ผู้สมัครได้ลงสมัครไว้ ตลอดจนตำแหน่งอื่น ๆ ที่บริษัทเห็นว่าเหมาะสม รวมถึง การติดต่อเพื่อนัดสัมภาษณ์ การแจ้งผลการสัมภาษณ์และการเสนอตำแหน่งงาน เพื่อการเข้าทำสัญญาจ้างกับท่าน ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเข้าทำสัญญา
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
2. ตรวจสอบประวัติของผู้สมัครงานจากบุคคลหรือองค์กรภายนอก รวมถึงการตรวจสอบคุณสมบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการ ทำงานของท่าน เช่น กฎหมายการทำงานของคนต่างด้าว และอาชีพ ที่ต้องมีเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น และดำเนินการ ช่วยเหลือให้ท่านได้มาซึ่งคุณสมบัติดังกล่าว เช่น การยื่นคำขอ ใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว การยื่นขอวีซ่า เป็นต้น รวมถึง การตรวจสอบและจัดเก็บข้อมูลสุขภาพและข้อมูลอื่นที่จำเป็น ต่อการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสมกับตำแหน่ง งานของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองแรงงานและ สวัสดิภาพในการทำงาน ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (กรณีมีกฎหมายกำหนด เช่น เพื่อการประเมินความสามารถในการทำงานของพนักงาน เพื่อการคุ้มครองแรงงาน)
  • ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
3. การบันทึกหรือเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการ พิจารณาและติดต่อกับท่าน เมื่อบริษัทเปิดรับสมัครในตำแหน่งงาน ที่ท่านได้สมัครไว้หรือตำแหน่งงานอื่นใดในอนาคตซึ่งบริษัทเห็นว่า เหมาะสมกับท่าน (เฉพาะกรณีที่ท่านไม่ผ่านการสัมภาษณ์งานหรือ ไม่เข้าทำสัญญาจ้างกับบริษัทด้วยเหตุผลประการอื่น) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
4. การรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณบริษัท เช่น การสอดส่องดูแล บริเวณภายในบริษัทด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
5. การตรวจสอบข้อเท็จจริงและบันทึกข้อมูลด้านสุขภาพของท่าน เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลอุณหภูมิร่างกายของท่าน เป็นต้น เพื่อใช้เป็น วิธีป้องกันเชื้อโรคหรือโรคติดต่อซึ่งอาจส่งผลต่อการแพร่กระจายเชื้อ ในวงกว้าง รวมไปถึงในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินต่อชีวิต ร่างกาย หรือ สุขภาพของบุคคลที่เข้ามาภายในบริษัท ทั้งนี้ยังรวมไปถึงการเปิดเผย ข้อมูลไปยังองค์กรภายนอกเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว เช่น เปิดเผยแก่ กรมควบคุมโรค สถาบันการแพทย์และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท
  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และ สุขภาพของบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม
  • เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด (เช่น กฎหมาย เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านสาธารณสุข)
  • ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง (กรณีไม่มีกฎหมายกำหนดให้บริษัทสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)
6. การปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท เช่น การดำเนินคดีตามกฎหมาย การริเริ่มคดี การต่อสู้คดี การระงับข้อพิพาทนอกศาล และการดำเนินการอื่น ๆ เพื่อปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทตามที่มีกฎหมายอนุญาต ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ฐานทางกฎหมาย
1. การพิจารณาตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของผู้สมัครงาน ซึ่ง อาจรวมถึงการนำข้อมูลมาใช้และเปิดเผยเป็นการภายในบริษัท เพื่อใช้ประกอบการสัมภาษณ์ การประเมินความสามารถ คุณสมบัติ และความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ผู้สมัครได้ลงสมัคร ไว้ ตลอดจนตำแหน่งอื่น ๆ ที่บริษัทเห็นว่าเหมาะสม ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และผู้สมัครงาน
2. การติดต่อประสานงานกับท่านในกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน ที่อาจเกิดกับผู้สมัครงานภายในบริเวณของบริษัท หรือ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ให้บริษัท (กรณีที่ผู้สมัครงานเข้าทำ สัญญาจ้างเป็นพนักงานของบริษัท) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และผู้สมัครงาน
3. การบันทึกหรือเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อ ใช้ประกอบในการพิจารณาและติดต่อกับผู้สมัครงาน เมื่อบริษัท เปิดรับสมัครในตำแหน่งงานที่ผู้สมัครงานได้สมัครไว้ หรือ ตำแหน่งงานอื่นใดในอนาคตซึ่งบริษัทเห็นว่าเหมาะสม กับผู้สมัครงาน (เฉพาะกรณีที่ผู้สมัครงานไม่ผ่านการสัมภาษณ์ งานหรือไม่เข้าทำสัญญาจ้างกับบริษัทด้วยเหตุผลประการอื่น) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และผู้สมัครงาน
4. การบันทึกหรือเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อ เป็นข้อมูลประกอบในทะเบียนประวัติของพนักงาน และ ดำเนินการใด ๆ เพื่อการให้สวัสดิการกับพนักงาน (กรณีที่ผู้สมัครงานเข้าทำสัญญาจ้างเป็นพนักงานของบริษัท)

ผลกระทบจากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมของท่านในการเข้าทำสัญญาจ้างกับบริษัท ซึ่งในกรณีที่ท่าน ไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถประเมินความสามารถและความเหมาะสมของท่านอย่างถูกต้อง ซึ่งในบางกรณีที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสำคัญต่อตำแหน่งที่ท่านได้สมัครไว้ บริษัทอาจตัดสินใจไม่รับท่านเข้าทำงานด้วยเหตุผลที่ท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว

ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน

กรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครงาน บริษัทอาจไม่สามารถประเมินคุณสมบัติของผู้สมัครงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ที่เหมาะสมเพื่อการรับผู้สมัครงานเข้าทำงานกับบริษัทได้

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ ในบางกรณี บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลหรือองค์กรใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้

  • บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ภายในบริษัทฯ ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร หัวหน้างาน พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายใน ของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • ผู้ให้บริการและตัวแทนที่บริษัทว่าจ้าง เช่น บริษัทผู้ให้การตรวจรับรองมาตรฐาน ISO เป็นต้น
  • องค์กรที่ผู้สมัครงานเคยทำงานให้ หรือบุคคลที่ผู้สมัครงานได้อ้างอิงไว้
  • บริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ในกลุ่มในเครือบริษัท ผู้ให้บริการภายนอก คู่ค้าทางธุรกิจและตัวแทนที่บริษัทดังกล่าวว่าจ้าง
  • หน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กระทรวงแรงงาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สถานทูต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานีตำรวจ เป็นต้น

ในบางกรณี บริษัทมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศให้แก่บริษัทในกลุ่มในเครืออื่นใดที่อยู่ต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุข้างต้นด้วย โดยบริษัทจะตรวจสอบให้มั่นใจว่าประเทศปลายทางมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและเป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ขณะนั้นกำหนด หากบริษัทจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศที่มีมาตรฐานคุ้มครองส่วนบุคคลที่ยัง ไม่ได้รับการรองรับตามกฎหมายหรือกรณียังไม่มีกฎหมายกำหนดรับรองเรื่องมาตรฐานดังกล่าว บริษัทจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อให้การส่งหรือโอนดังกล่าวเป็นไปโดยชอบ ซึ่งอาจรวมถึงการขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่จำเป็น หรือการจัดการให้มีมาตรการต่างๆ ที่เหมาะสม เพื่อให้ท่านยังคงสามารถบังคับตามสิทธิของท่านได้ รวมทั้งจัดให้มีมาตรการเยียวยาทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายกำหนด

ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการพิจารณาเข้าทำสัญญาจ้างแรงงานกับท่าน และเมื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาดังต่อไปนี้

  • ในกรณีที่บริษัทรับท่านเข้าทำงาน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้างและหลังจากสัญญาจ้างสิ้นสุดลงเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี
  • ในกรณีที่ท่านไม่ได้เข้าทำงานกับบริษัทไม่ว่าด้วยเหตุใด เช่น บริษัทปฏิเสธไม่รับท่านเข้าทำงานหรือท่านปฏิเสธจะเข้าทำงานกับบริษัท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี นับจากวันสัมภาษณ์งาน และในกรณีที่ท่านยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านไว้ในฐานข้อมูลของบริษัทเพื่อจุดประสงค์ในการรับสมัครงาน ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านก็จะถูกเก็บรักษาไว้ในระยะเวลาเดียวกัน

ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานที่กำหนดไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วนอาจถูกเก็บรักษาเกินกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้ข้างต้นสำหรับการนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และการปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท โดยในกรณีดังกล่าวข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาตลอดระยะเวลาที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว และหรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

สิทธิของท่านในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิตามกฎหมายในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ ดังนี้

  • สิทธิเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้ โดยการเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องสมบูรณ์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กระทำก่อนที่จะมีการเพิกถอนความยินยอมนั้น
  • สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่ท่านได้
  • สิทธิร้องขอให้โอนหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นหรือตัวท่านเองได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
  • สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
  • สิทธิร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคล ได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย
  • สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย
  • สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ได้
  • สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทหรือพนักงานหรือผู้รับจ้างของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ ท่านสามารถแจ้งการใช้สิทธิดังกล่าวแก่บริษัทได้โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรตามข้อมูลการติดต่อของบริษัทซึ่งอยู่ด้านล่างนี้ ในกรณีที่บริษัท ไม่อาจทำตามคำขอของท่านได้ บริษัทจะอธิบายเหตุผลของการปฏิเสธไปพร้อมกับคำตอบสนองดังกล่าว

แบบฟอร์มส่งคำร้อง คลิกที่นี่ ท่านสามารถส่งคำร้องพร้อมกับเอกสารเพิ่มเติมมาที่ บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เลขที่ 10 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10250

Email : info@jorakay.com

การเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัว

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ตามสมควร โดยประกาศฉบับนี้ได้รับการแก้ไขปรับปรุงครั้งล่าสุด ในวันที่ 30 มีนาคม 2566

ข้อมูลและช่องทางการติดต่อของบริษัท

บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
เลขที่ 10 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10250
โทรศัพท์ 02-7201000 Email : info@jorakay.com
( เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 08.00 – 17.00 น. )