7 วิธีกำจัดเชื้อราบนผนังและกำแพง ให้หายวับไม่กลับมาอีก!

7 วิธีกำจัดเชื้อราบนผนังและกำแพง

1. แอลกอฮอล์

ภาพ: การทำความสะอาดเชื้อรา

แอลกอฮอล์เป็นวิธีกําจัดเชื้อราบนผนังที่เพิ่งเกิดขึ้น หรือเป็นเชื้อราที่ไม่ได้ฝังลึกมากนัก ให้ใช้แปรงสีฟันขัดเชื้อราดำออกให้หมดเสียก่อน จากนั้นจึงใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์เช็ดบริเวณที่เกิดเชื้อรา เพื่อป้องการเจริญเติบโตของเชื้อราได้เป็นอย่างดี

2. ผงซักฟอก

ภาพ: ผงซักฟอก

ผสมผงซักฟอกกับน้ำ แล้วใช้ผ้าจุ่มน้ำค่อย ๆ เช็ดลงบนผนังเบา ๆ อย่าให้แรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้สีผนังหลุดล่อนหรือเกิดร่องรอยเสียหายได้ เมื่อเช็ดเชื้อราออกจนหมดแล้ว ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดบริเวณที่มีเชื้อราอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกำจัดสปอร์ออก จะเป็นวิธีกำจัดราดำบนผนังที่ได้ผลในระยะยาว

3. น้ำยาฟอกขาว

ภาพ: น้ำยาฟอกขาว

วิธีนี้ถือเป็นวิธีกำจัดราดำบนผนังด้วยสารเคมี ซึ่งมีส่วนผสมของคลอรีน ทำให้กำจัดได้ทั้งเชื้อรา ราดำ และตะไคร่น้ำ โดยใช้น้ำยาฟอกขาวหรือสารฟอกขาวผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1:99 แล้วนำมาใส่ขวดสเปรย์แล้วฉีดให้ทั่วบริเวณที่มีเชื้อราบนผนัง แล้วเช็ดด้วยน้ำสะอาด และขัดด้วยแปรงสีฟันอีกรอบหนึ่ง จะช่วยกําจัดเชื้อราบนผนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

ภาพ: ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ใส่แผลขนาดเล็ก

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีฤทธิ์อ่อน มักใช้ป้องกันแผลติดเชื้อ นิยมใช้กับแผลขนาดเล็ก รวมไปถึงใช้บ้วนปากป้องกันการติดเชื้อในช่องปากได้อีกด้วย เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อที่หาซื้อได้ง่าย และยังนำมาใช้กําจัดเชื้อราบนผนังได้อีกด้วย โดยนำไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ถ้วย ผสมกับน้ำ 1 ถ้วย แล้วใช้ผ้าชุบน้ำที่ผสมแล้วเช็ดบนผนังที่มีเชื้อรา เมื่อเช็ดเรียบร้อยแล้ว นำเบกกิ้งโซดาเล็กน้อยผสมกับน้ำสะอาด 1 ถ้วย เช็ดบริเวณเดิมอีกครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อราเกิดใหม่

5. แก้ปัญหารั่วซึม

ภาพ: การทำกันซึมที่ผนัง

คลิกสั่งซื้อสินค้า: จระเข้ เฟล็กซ์ ชิลด์ ซีเมนต์ทากันซึมชนิดยืดหยุ่น ปกปิดรอยร้าวได้ดี ปล่อยเปลือยได้

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าปัญหาเชื้อราบนผนังนั้นเกิดจากการรั่วซึมในผนังบ้าน ไม่ว่าจะจากฝนสาดเข้าผนังหรือจากท่อน้ำรั่วซึม ดังนั้นการทำกันซึมที่ได้มาตรฐานก่อนปูกระเบื้องผนังหรือทาสี เป็นวิธีกำจัดราดำบนผนังจากต้นเหตุ โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันซึมที่ยึดเกาะได้ดี ทนต่อสภาวะอากาศหรือรังสี UV อย่างจระเข้ เฟล็กซ์ ชิลด์ ซีเมนต์ทากันซึม ที่ใช้งานง่ายเพียงผสมน้ำแล้วทาก่อนปล่อยให้แห้งแล้วจึงทาสี ปูกระเบื้อง หรือจะปล่อยเปลือยก็ได้เช่นกัน

6. ระบายอากาศในบ้าน

ภาพ: เปิดประตู หน้าต่าง ระบายอากาศ

อีกหนึ่งวิธีกําจัดเชื้อราบนผนังจากต้นเหตุ คือ หมั่นระบายอากาศในบ้านสม่ำเสมอ เพื่อลดความชื้นสะสมตัวในบ้าน โดยควรเปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อระบายอากาศและให้แสงแดดส่องเข้าบ้าน หรือติดตั้งพัดลมระบายอากาศที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อให้ระบายอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำ ก่อนทาสีใหม่

ภาพ: การทำความสะอาดเชื้อราก่อนทาน้ำยา

คลิกสั่งซื้อ: น้ำยาจระเข้ ทำความสะอาดทั่วไป

สุดท้ายเป็นวิธีกำจัดเชื้อราบนกำแพงปูนสำหรับผู้ที่ต้องการทาสีผนังใหม่ และกังวลว่าเชื้อราจะกลับมาอีกครั้ง ควรเลือกใช้จระเข้ เอ็ม-คิล น้ำยาฆ่าเชื้อรา ตะไคร่น้ำ และป้องกันความชื้นบนผิวปูน สูตรน้ำปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน เหมาะสำหรับกำจัดเชื้อราบนผนังปูนที่มีคราบติดแน่น ใช้ทาผนังก่อนทาสีใหม่ มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำ 100% และยังช่วยลดความชื้นบนผิวปูน ลดโอกาสเกิดเชื้อราซ้ำที่เดิม อีกทั้งยังลดโอกาสเกิดคราบขาวบนสีทับหน้า

วิธีใช้งานจระเข้ เอ็ม-คิล

ภาพ: จระเข้ เอ็ม-คิล

ทำความสะอาดพื้นผิว ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงล้างสิ่งสกปรก หรือใช้แปรงพลาสติกขัดคราบสกปรกออกให้หมด ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง แล้วทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
ทาผลิตภัณฑ์ ทาน้ำยาจระเข้ เอ็ม-คิล ลงบนพื้นผิว 1 รอบ โดยไม่ต้องผสมน้ำหรือทินเนอร์ จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้ง 3-4 ชั่วโมง
ทาสี หลังจากน้ำยาแห้งแล้ว จึงทาสีทับหน้าได้เลยทันทีตามต้องการ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องคราบขาว

เพื่อให้ผนังบ้านปลอดภัยจากเชื้อราและราดำ หลังจากกําจัดเชื้อราบนผนังและกำแพงแล้ว ควรหมั่นทำความสะอาดผนังบ้านด้วยน้ำยาจระเข้ ทำความสะอาดทั่วไป ซึ่งใช้ทำความสะอาดได้ทั้งคราบสกปรกทั่วไปหรือคราบฝังแน่น ไม่ว่าจะเป็นเศษฝุ่น สิ่งสกปรก หรือคราบไขมันทำความสะอาดได้หมดจด โดยไม่กัดกร่อนพื้นผิว และไม่ทิ้งสารตกค้าง และหลังทำความสะอาดเสร็จ อย่าลืมระบายอากาศในบ้าน เปิดหน้าต่างให้แสงแดดเข้าถึง เพื่อป้องกันเชื้อราและราดำกลับมาอีกครั้ง ให้บ้านของคุณสวยงามและปลอดภัยจากเชื้อโรคที่เป็นอันตราย