น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบสี

น้ำยาขจัดคราบสีบนผนัง และหลากหลายวัสดุพื้นผิว

  • น้ำยาขจัดคราบสีอะครีลิค สีน้ำมัน สีสเปรย์
  • ใช้ได้หลากหลายวัสดุพื้นผิว เช่น กระเบื้อง หินอ่อน ปูนซีเมนต์ โลหะ
  • สามารถใช้งานกับผนัง หรือแนวดิ่งได้อย่างสะดวก
  • ความหนืดของน้ำยาทำให้สามารถขจัดคราบสีได้อย่างสะดวก

ลักษณะการใช้งาน
น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบสี เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับขจัดคราบสี คราบยาง คราบกาว คราบอีพ็อกซี่ และแว๊กซ์เคลือบหน้ากระเบื้อง หิน ปูน หินอ่อน และโลหะอื่นๆ ความหนืดของน้ำยาทำให้สามารถขจัดคราบสีบนพื้นผิวแนวตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขนาดบรรจุ : 0.25 ลิตร / 1.0 ลิตร

สั่งซื้อสินค้า ช่องทางติดต่อ

น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบสี สำหรับขจัดคราบสีอะครีลิค สีน้ำมัน สีสเปรย์ และคราบกาว บนพื้นผิวกระเบื้อง หินอ่อน ปูน โลหะ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นน้ำยาขจัดคราบสีที่มีความหนืด ทำให้สามารถขจัดคราบบนพื้นผิวและผนังได้อย่างสะดวก

การเตรียมพื้นผิว

  • ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่น สิ่งสกปรก เศษวัสดุ ไม่ให้มีน้ำขังก่อนที่จะลงน้ำยาจระเข้ ขจัดคราบสี

อัตราส่วนผสม

  • ไม่ต้องผสมน้ำ

อัตราส่วนผสม
ไม่ต้องผสมน้ำ

การใช้งาน

  1. ใช้น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบสี กับพื้นผิวที่แห้ง โดยไม่ต้องผสมน้ำ
  2. ทาน้ำยาลงบนพื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาด ทิ้งไว้ 3-4 นาที โดยใช้แปรงทาสี
  3. ใช้แปรง หรือฟองน้ำขัดพร้อมล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ข้อควรระวัง

  • สวมถุงมือ และเครื่องป้องกันตลอดการใช้งาน
  • ไม่ควรใช้น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบสี บนพื้นผิวที่เป็นยาง, ซิลิโคน หรือวัสดุอื่น ๆ ที่มาจากปิโตเลียม
  • ควรทดสอบประสิทธิภาพในพื้นที่เล็ก

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

  • ทางการเข้าตา ล้างตาด้วยน้ำเปล่าจำนวนมากทันที และกรอกตาขึ้นลง หากใส่คอนเทคเลนส์ ควรถอดอย่างระมัดระวัง และล้างตาด้วยน้ำเปล่าต่ออย่างน้อย 20 นาที และควรปรึกษาแพทย์
  • ทางการสูดดม เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปที่โล่งและอากาศถ่ายเท หากยังมีควันฟุ้งจากสารเคมี ควรสวมใส่หน้ากากในกรณีหมดสติ ควรจัดท่าทางผู้ป่วยอยู่ในท่าที่เหมาะสมคลายกระดุมเสื้อหรือเนคไทด์ ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปในสถานที่ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเท และปรึกษาแพทย์ฉุกเฉินทันที
  • ทางผิวหนัง ล้างสิ่งปนเปื้อนจากผิวหนังด้วยน้ำ จำนวนมาก ล้างสารที่ปนเปื้อนเสื้อผ้าด้วยน้ำ และควรสวมถุงมือ ควรล้างน้ำเป็นระยะเวลา 20 นาที ซักเสื้อผ้าและรองเท้าก่อนนำมาสวมใส่
  • ทางปาก ล้างปาก ถอดฟันปลอมหากมี และดื่มน้ำตามในปริมาณพอสมควร และควรหยุดหากผู้ป่วยมีอาการอยากอาเจียน หากผู้ป่วยมีอาการอาเจียน ควรจัดท่าให้ศีรษะอยู่ต่ำ เพื่อปกป้องไม่ให้สารพิษเข้าสู่ปอด ไม่ควรนำสิ่งต่างๆใส่ปากผู้ป่วย หากผู้ป่วยมีอาการหมดสติ การเคลื่อนย้าย ผู้ป่วยไปที่อากาศปลอดโปร่งและถ่ายเท คลายกระดุมเสื้อ และปรึกษาแพทย์ฉุกเฉินทันที

การเก็บรักษา

  • เก็บในที่มิดชิดห่างจากเด็ก อาหาร และสัตว์เลี้ยง
  • ควรจัดเก็บให้พ้นแสงแดด และอุณหภูมิไม่เกิน 40 °C