วิธีการรักษาผ้าม่านโปร่งสำหรับห้องที่ต้องการแสงสวยตลอดกลางวัน

ซื้อผ้าม่านโปร่ง สั่งตัดมาติดเองได้หรือไม่?

อีกหนึ่งสไตล์การแต่งบ้านเพื่อรับแสงแดดให้รู้สึกสดใส ผ่อนคลายตลอดทั้งวัน เจ้าของบ้านหลายท่านเลือกใช้ “ผ้าม่านโปร่ง” เพื่อมองเห็นบรรยากาศด้านนอก และเลื่อนเปิดปิดได้ง่าย และทำให้บ้านดูอ่อนโยนละมุนอีกด้วย ส่วนใหญ่ผ้าม่านโปร่งจะใช้สีโทนเย็น และแต่งลวดลายเป็นลูกไม้ เพื่อเล่นกับเงาที่สะท้อนกระทบลายให้ดูสวยงาม

ผ้าม่านโปร่งมักใช้กับการติดผ้าม่านแบบ 2 ชั้น โดยชั้นแรกจะเป็นผ้าม่านแบบกันยูวีซึ่งมีความหนา อาจทำให้ห้องดูทึบเกินไป จึงต้องมีชั้นที่ 2 เป็นผ้าม่านโปร่ง เพื่อสลับกันเปิดรับแสงนั่นเอง

ผ้าม่านโปร่งคืออะไร?

ผ้าม่านโปร่งที่นิยมใช้มักจะเป็นผ้าฝ้าย หรือผ้าธรรมชาติ 100% เพราะเนื้อผ้าให้ความพลิ้วไหว และดูแลรักษาด้วยการถอดซักได้ง่าย แต่ก็มีบางแบรนด์ที่ใช้ใยสังเคราะห์จากพลาสติกที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนหรือกันเชื้อราเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานให้นานขึ้น และทำความสะอาดง่ายขึ้นนั่นเอง
 

ผ้าม่านโปร่งหาซื้อได้ที่ไหน?

ตามร้านตัดผ้าม่านแทบทุกร้านมีผ้าม่านโปร่งให้เลือกทุกสี ทุกลาย แต่หากอยากติดตั้งด้วยตัวเอง ก็มีร้านค้าจำหน่ายผ้าม่านโปร่ง พร้อมรางสำเร็จรูป แต่ปัญหาก็คือ ทางเจ้าของบ้านต้องวัดขนาดของรางผ้าม่านให้พอดีกับช่องหน้าต่าง และวัดความยาวของหน้าต่างให้พอดีกับผ้าม่านที่ต้องการซื้อ

โดยปกติแล้วผ้าม่านโปร่งสำเร็จรูป จะทำขนาดมาพอดีกับบ้านจัดสรรทั่วไป แต่หากเป็นบ้านสร้างเองจะหาผ้าม่านสำเร็จรูปที่พอดียากหน่อย รวมถึงคอนโดและหอพักต่าง ๆ ที่อยากได้ผ้าม่านสำเร็จรูปแบบชั่วคราว เพราะเช่าอยู่ ก็นิยมเลือกผ้าม่านโปร่งสำเร็จรูป เพื่อที่จะไม่ได้เปลืองค่าใช้จ่าย และค่าปรับรื้อถอนในภายหลัง ยกตัวอย่างร้านค้าที่สามารถหาซื้อผ้าม่านโปร่งแสง ได้แก่

• โซนของแต่งบ้านในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ

• Home Pro

• IKEA

• Index

• บุญถาวร

• ดูโฮม

• ฯลฯ

วิธีดูแลรักษา “ผ้าม่านโปร่ง” 

หากคุณใช้ผ้าม่านโปร่งไปสักพัก จะสังเกตเห็นว่ามีฝุ่นเกาะจับง่าย ในทุก ๆ วันควรใช้ไม้ปัดขนไก่ปัดฝุ่นเพื่อลดการสะสมของฝุ่นบนผ้าม่าน หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดผ้าม่านเป็นประจำ แต่หากผ้าม่านเกิดเป็นรอยเลอะจากการใช้งาน สามารถถอดซักได้

ขั้นตอนการซักผ้าม่าน (ซักมือ)
1. เตรียมกาละมังใบใหญ่ ๆ ไว้ 2 ใบ
2. ใช้น้ำเปล่าซักน้ำที่ 1 เพื่อล้างฝุ่น ถ้ายังสกปรกอยู่ให้ซักน้ำที่ 2
3. ถ้าผ้ามีคราบสกปรกมาก ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเข้มข้นป้ายบริเวณคราบ แล้วทิ้งไว้ 5 – 10 นาที ค่อยขยี้
4. ผสมน้ำยาซักผ้าแบบธรรมดา แช่ผ้าทิ้งไว้ 30 นาที
5. ขยี้ผ้าเบา ๆ ทั่วทั้งผืน
6. ซักน้ำเปล่า 2 – 3 น้ำ โดยผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มในน้ำแรก
7. ตาก (ระวังเป็นรอยสนิมจากราวเก่า)
8. รีดด้วยเตารีดความร้อนตามเนื้อผ้า

เหตุผลที่การซักผ้าม่านจะต้องพิถีพิถันและต้องเลือกใยผ้าที่วัสดุดี ก็เพราะว่าสภาพอากาศสามารถทำให้ใยผ้ากลายมาเป็นฝุ่นละอองในห้องได้ หากซักผิดวิธีจะเพิ่มโอกาสให้ผ้าเสื่อมเป็นขุยเร็ว ควรใช้น้ำยาซักผ้าที่อ่อนโยน (ใช้ร่วมกับน้ำยาปรับผ้านุ่มได้) ไม่นิยมใช้เครื่องซักผ้าเพราะจะทำให้ข้อต่อเสียหาย และรีดก่อนที่จะนำขึ้นราง เพื่อรักษาความสวยงามของเนื้อผ้า

ผ้าม่านแบบโปร่งจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสีซีดจาง เพราะหากใช้ผ้าสีขาวโทนอ่อน ก็จะมีอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่า แต่ปัญหาการซักผ้าม่านจะเป็นการนำผ้าออกจากราง และบริเวณข้อต่อขึ้นสนิม ซึ่งจะทำให้ผ้าเสียความสวยงาม เวลาดึงผ้าม่านด้วยแรงที่มากเกินไปอาจทำให้รางหลุดออกมาจากผนัง

ผ้าม่านจะต้องสอดคล้องกับสีของผนังห้อง หากเลือกผ้าม่านที่โทนสีกระโดดแตกต่างไปจากสีห้องจะทำให้ภาพรวมโดยตลก หรือการแต่งห้องที่ใช้ Wall Paper สวย ๆ ก็ต้องคุมตีมของผ้าม่านโปร่งด้วย

หากคุณมีบ้านสวยและเกิดต้องซ่อมปรับปรุงขึ้นมา อย่าลืมนึกถึงผลิตภัณฑ์จระเข้นะครับ โทรสอบถามข้อมูลจากส่วนงานให้บริการข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ที่ 02 710 1112


บทความที่เกี่ยวข้อง

วิธีเลือกม่านบังแดด หมดปัญหาบ้านร้อน อบอ้าว

ทาบ้านสีไหนสะท้อนแสงแดดได้ดีที่สุด

รู้จักวิธีเลือก "กันสาด" เพื่อ "กันแดด" รอบบ้าน

ติดตามข้อมูลข่าวสาร Line Official Jorakay ได้ที่นี่