แนวโน้มของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้ม ของสังคมที่มีผู้สูงอายุมากขึ้น และวิถีการดำเนินชีวิตใน ยุคดิจิทัล ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของสังคมในยุคโลกไร้พรมแดนที่เอื้อต่อการลงทุนที่หลากหลาย ซึ่งช่วยเพิ่ม โอกาสให้กับธุรกิจในการเจาะตลาดภูมิภาคต่างๆ กลายเป็น ประเด็นที่ประชาคมโลก ทุกภาคส่วนธุรกิจ แม้กระทั่งระดับ ปัจเจกบุคคลต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความสัมพันธ์ ของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมโยงกันอย่าง ไม่เคยมีมาก่อน ที่กำลังสร้างโอกาสและความท้าทายในการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน ดังนั้น แนวทางในการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จึงต้องมีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่จะส่งผลต่อความยั่งยืนของธุรกิจ
ในปี 2563-2564 นับเป็นปีแห่งความท้าทายที่วิกฤติการณ์แพร่ระบาดของไวรัส โควิด 19 ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และทั่วโลกในวงกว้าง แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบจากเศรษฐกิจไทยทเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ จึงทำให้ผู้ประกอบการยังมีความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจ แม้ในวิกฤตที่ผ่านมายังส่งผลต่อภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังมีโอกาสในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
กลยุทธ์ฝ่าวิกฤต Covid-19
- กลยุทธ์ Speed to Market สไตล์แสนสิริ
กลยุทธ์รับเร็ว รุกเร็ว (Speed to Market) เป็นการสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน หรือการทำธุรกิจด้วยความเร็ว ปรับตัวเร็วให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าทั้งในปัจจุบันและการกลับมาของตลาดก่อนเปิดประเทศและเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
- Cashflow is king
กลยุทธ์ในการบริหารกระแสเงินสดให้อยู่ในสมดุลที่ธุรกิจจะดำเนินต่อไปในอนาคตได้ ทำให้แสนสิริขายสินค้าคงเหลือออกไปได้เยอะมาก ปิดการขายไปได้ 35 โครงการ ทำให้มีเงินสดกลับมาในมือ รวมถึงลดอัตราหนี้สินและมีสภาพคล่องในมือ นอกจากนี้ช่วยลดอัตราหนี้สิน Gearing ratio ลดลงจาก 1.7 อยู่ที่ 1.3 สะท้อนความแข็งแกร่งทางการเงินที่เปรียบเหมือนภูมิคุ้มกันอย่างดีที่ช่วยให้แสนสิริหล่อเลี้ยงธุรกิจโดยไม่สะดุด
- รักษาสมดุล 4 เสาสังคม
4 เสาหลัก อันได้แก่ ลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงานและสังคม โดยเสาที่สำคัญที่สุดในเวลานี้คือพนักงานของแสนสิริเอง
สร้างสมดุลต่อความต้องการด้วยหลัก 4 เสา
หนึ่งในภารกิจของแสนสิริคือ การบริหารงานของเรามุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจ การใส่ใจ เพื่อนำไปสู่การสร้างข้อร่วม ผูกพันอย่างยั่งยืนกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอกองค์กรโดยยึดหลัก กลยุทธ์บริหาร 4 เสา ซึ่ง ประกอบด้วย
- เสาที่ 1 ลูกค้า : เราต้องหาของที่ดีที่สุดให้พวกเขา โดยเราได้มีการออกโปรโมชันช่วยให้ผู้ที่อยากมีบ้านสามารถมีบ้านได้ง่าย ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนที่อยู่อาศัยได้นานตลอดระยะเวลา 2 ปี โดยแสนสิริผ่อนให้ทั้งต้นทั้งดอกนานสูงสุด 24 เดือน ครอบคลุมถึง 62 โครงการพร้อมอยู่ และแน่นอนว่าการออกโปรโมชันดังกล่าวอาจจะทำให้กำไรของแสนสิริลดน้อยลงไป แต่เราต้องยอมเพื่อช่วยเหลือลูกค้า ซึ่งเมื่อให้ใจไปแล้ว หากเขาอยากมีบ้านหลังต่อไปย่อมต้องเลือกแสนสิริมาเป็นตัวเลือกแรกแน่นอน และช่วงนี้คนทำงานจากที่บ้านมากขึ้น ทำให้ต่อไปความสำคัญของพื้นที่ใช้สอยภายในห้องหรือบ้านจะเป็นเรื่องลำดับแรกๆ ที่ลูกค้าจะพิจารณา รวมไปถึงเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้ต่อไปธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องเป็นพันธมิตร กับบริษัทไอทีต่าง ๆ มากขึ้น
- เสาที่ 2 ผู้ถือหุ้น : ต้องทำผลกำไร สูงสุดให้พวกเขา เราต้องบริหาร Cashflow สร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจแก่ผู้ถือหุ้นทุกท่าน
- เสาที่ 3 พนักงาน : ต้องเลี้ยงดูพวกเขาให้ดี โดยพนักงานได้ทำงานจากที่บ้านเพื่อป้องกันโควิด-19 และเรายังได้จัดตั้ง Sansiri Care Relief Fund โดยเงินบริจาคจากคณะผู้บริหาร เริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท เพื่อการดูแลครอบครัวของพนักงานผู้ได้ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 หรือตกงานเพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจ
- เสาที่ 4 สังคม : เราต้องมีความรับ ผิดชอบต่อสังคม เราดูแลทั้งความเป็นอยู่ที่ดีของคนในชุมชนรอบข้าง และสังคมทั่วไป โดยสนับสนุนผ่านโครงการ โซเชียล เช้นจ์ (Social Change) รวมไปถึงการดูแลสังคมผ่านโครงการ Sansiri Care For All อาสาพาคลีน ลดโลกเลอะ Run4U และในมิติสังคมนี้ ยังมีเรื่องของสิทธิมนุษยชนและแรงงานเด็ก โดยกำหนดให้คู่ค้าธุรกิจทุกราย ต้องผ่านการลงนามในจรรยาบรรณคู่ค้าธุรกิจที่มีข้อกำหนดการคุ้มครองแรงงาน เด็กและจัดทำพื้นที่ปลอดภัยให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่พัฒนาโครงการ
แสนสิริเชื่อว่า ‘อนาคตที่ดี เริ่มต้นจากสร้างวันนี้ให้ยั่งยืน’ นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำ ให้เราไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา เพื่อเติบโตพร้อมกับการสร้างคุณค่าให้ผู้มีส่วนได้เสียใน ทุกภาคส่วน
หลักการสร้างความยั่งยืนด้วยแนวคิด 3P
เรายึดหลักการสร้างความยั่งยืนด้วยแนวคิด 3P ได้แก่ Product, People และ Planet เป็นหลักในการดำเนินธุรกิจของเรา และพาสังคมให้ก้าวไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
PRODUCT : คุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และดีไซน์ (Quality, Reliability & Aesthetic Functionality Design) คือ หัวใจสำคัญในการสร้างที่อยู่อาศัยของแสนสิริ เราอยากสร้าง และส่งต่อสถานที่ที่ลูกบ้านใช้ชีวิตและเติบโตให้ดีที่สุด เพื่อให้ ลูกบ้านทุก Generation ใช้ชีวิตที่นี่ได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตจากนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน อย่างจระเข้ ที่มาช่วยทำให้การอยู่อาศัยดียิ่งขึ้นกว่าเดิม (Wellbeing) รวมถึงยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ได้ผ่านมาตรฐานตามการประเมินอาคารเขียวในระดับสากล สามารถรองรับการก่อสร้างได้อย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอน และยังเป็นวัสดุก่อสร้างที่ทดสอบแล้วว่ามีค่า VOCs ต่ำหรือไม่มีเลย ในบางผลิตภัณฑ์ (NON VOCs) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง และเลือกใช้วัตถุดิบที่มีผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมน้อยลงนั่นเอง
PEOPLE : แสนสิริให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ตั้งแต่ลูกบ้านแสนสิริ พนักงานทุกระดับภายใน องค์กร รวมไปถึงคู่ค้าที่เราทำธุรกิจด้วย
PLANET : เราไม่หยุดนิ่งในการค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับกระบวนการสร้างบ้านที่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อ สิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด อีกทั้งการสร้างสังคมให้น่าอยู่ ยังเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่เราให้ความสำคัญ โดยเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก ผู้ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของชาติในอนาคต
แสนสิริยังคงมุ่งมันอย่างต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจอย่างยื่นยืนตามนโนบาย เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยให้มีความสอดคล้องเชื่อมโยง กับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ที่องค์การ สหประชาชาติ (United Nations: UN) กำหนด เพื่อสะท้อนถึงการบริหารงานที่ชัดเจน โปร่งใส สร้างจุดเปลี่ยนสู่สังคมไทยและประเทศไทย ให้พัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ยิ่งขึ้นอีกในอนาคต และแนวคิดเหล่านี้จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความยั่งยืนต่อส่วนรวมทั้งในวันนี้ พรุ่งนี้ และตลอดไป (Today, Tomorrow and Always)
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)