ผู้เชี่ยวชาญด้าน MedTech (เทคโนโลยีทางด้านการแพทย์) เคยพูดถึงแนวโน้มเกี่ยวกับดิจิทัลในการดูแลสุขภาพจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้น และสถานการณ์ปัจจุบันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นหรือแรงผลักดันที่ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น มีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้ และให้ความสำคัญเรื่องความสะอาด สุขอนามัย รวมไปถึงเรื่องของที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเจ็บป่วย
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเทรนด์ของการดูแลสุขภาพได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ผู้คนมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ทั้งการวิ่งมาราธอน ปั่นจักรยาน ทานอาหารเพื่อสุขภาพ รวมไปถึงเรื่องที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพก็ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
เห็นได้ว่ากลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงใช้โอกาสที่จะปรับตัวและรุกเข้าสู่ “ธุรกิจบริการสุขภาพ” หรือ Wellness Business มากขึ้น มีการผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตร เพื่อพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ และเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพอย่างเต็มรูปแบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แนวโน้มของอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ
จากการวิจัยเชิงลึกที่สถาบันสุขภาพโลกจัดทำขึ้นเพื่อวิเคราะห์ภาคอสังหาริมทรัพย์และชุมชนเพื่อสุขภาพระดับโลก (Build Well to Live Well : Global Wellness Institute ) พบว่าตั้งแต่ปี 2558 อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพเติบโต 6.4% ต่อปี มีมูลค่าตลาด 134 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2560 และจะขยายตัวอีก 6% ต่อปีไปจนถึงปี 2565 สู่มูลค่าตลาด 180 พันล้านเหรียญสหรัฐ และในปัจจุบันมีโครงการอสังหาริมทรัพย์และชุมชนเพื่อสุขภาพกว่า 740 โครงการ จากทั้งหมด 34 ประเทศทั่วโลก
นอกจากแนวโน้มของที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพหรือเวลล์เนส (Wellness) กำลังมีการขยายตัวหรือเติบโตตามการใส่ใจสุขภาพของกลุ่มบริโภคเพิ่มมากขึ้น ยังมีความสอดคล้องกับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประชากรโลก หรือแม้แต่ประชากรในไทยก็กำลังเข้าสู่ภาวะสังคมสูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ หรือที่เรียกว่า Acing Society โดยประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศมีผู้สูงอายุมากที่สุดอีกด้วย และจากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติคาดว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% และในปี 2578 ประเทศไทยจะมีกลุ่มคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มากถึง 30% ของประชากรไทยทั้งหมด
การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้บริโภคค้นหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งทางด้างฟังก์ชั่นการใช้งาน และทางด้านอารมณ์เพื่อการมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น สามารถคาดการณ์ได้ว่าแนวคิดการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพของผู้คนจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาในอนาคต และผลักดันตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพให้ก้าวไปอีกระดับ เป็นสังคมที่ใส่ใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้น
การใช้ชีวิตแบบใหม่ กับรูปแบบที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไป
สถานการณ์ปัจจุบันที่ทำให้ผู้คนเกิดการเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้ในการใช้ชีวิตแบบใหม่ก็ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยโดยมีปัจจัยหลากหลายด้านเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานที่พิจารณาเรื่องทำเลที่ตั้ง คุณภาพของโครงการ ชื่อเสียงของบริษัทผู้พัฒนาโครงการ และเรื่องของราคา ซึ่งความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของผู้คนยุคใหม่จะพิจารณาแบบเจาะลึกมากขึ้นโดยมีปัจจัย ดังนี้
ปัจจัยด้านความปลอดภัย จากการสำรวจการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของคนยุคใหม่ ของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่าปัจจัยด้านความปลอดภัยนั้นมีความสำคัญเทียบเท่ากับการเลือกทำเล และสิ่งที่ต้องการด้านความปลอดภัยคือจะต้องมีกล้องวงจรปิดที่ครอบคลุม, มีสัญญาณกันขโมยหรือเตือนภัยเมื่อเกิดการบุกรุก, มีรปภ.คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง, มีระบบประตูล็อกดิจิทัล และมีระบบคีย์การ์ดสำหรับเข้าอาคาร การเข้าใช้พื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมไปถึงการควบคุมดูแลการเข้าออกเพื่อความปลอดภัยของการแพร่ระบาดของโรคด้วย
ปัจจัยด้านฟังก์ชั่นภายในห้องพักหรือที่อยู่อาศัย ว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของผู้อาศัยได้ดีหรือไม่ ซึ่งการแพร่ระบาดของโควิด -19 ทำให้มีการใช้ชีวิตในที่อยู่อาศัยมากกว่าแต่ก่อน ทั้งการล็อกดาวน์ หรือแม้แต่การ Work From Home ดังนั้นผู้อยู่อาศัยจึงคำนึงถึงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ต่าง ๆ ว่ามีพื้นที่สำหรับการทำงาน การพักผ่อน การออกกำลังกาย ทำอาหาร หรือประกอบกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ปัจจัยด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมที่มีมาตรฐาน อีกปัจจัยที่ผู้อยู่อาศัยให้ความสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค คือต้องมีการจัดการสิ่งแวดล้อมในโครงการให้ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการขยะ คัดแยกขยะแต่ละชนิดอย่างชัดเจนเป็นระบบ ถูกกำจัดอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัว รวมไปถึงการแยกขยะที่ติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงอย่างหน้ากากอนามัยด้วย ส่วนการก่อสร้างโครงการต้องเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยในระยะยาว อย่างผลิตภัณฑ์ของจระเข้ ได้รับการทดสอบแล้วว่ามีค่า VOCs ต่ำหรือไม่มีเลย ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยให้อายุยืนยาว ช่วยโลกยั่งยืนด้วย
ปัจจัยด้านคอนเซปต์ของโครงการที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งต่อการตัดสินใจเลือกซื้อคือคอนเซปต์ของโครงการ เพราะผู้อยู่อาศัยแต่ละคนจะมีบุคลิกและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน จึงต้องเลือกให้เหมาะสมเข้ากับความชื่นชอบของตัวเอง ปัจจุบันผู้พัฒนาอสังหาฯก็มีการออกแบบที่อยู่อาศัยได้อย่างเฉพาะตัวและโดดเด่น เช่น คอนโดมิเนียมหรือบ้านสไตล์รีสอร์ท ที่ถูกออกแบบตกแต่งให้รู้สึกผ่อนคลาย มีบรรยากาศร่มรื่น
โครงการที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์สำหรับทุกวัย
นอกจากการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว รูปแบบของการอยู่อาศัยของคนไทยก็เปลี่ยนไปด้วย มีทั้งกลุ่มคนโสดที่อาศัยอยู่คนเดียว หรือกลุ่มที่แต่งงานแล้วที่ยังไม่มีลูก ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ก็หันมาสนใจเรื่องของสุขภาพเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน จึงทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ หรือรูปแบบที่เน้นด้านสุขภาพมากขึ้น อย่างการเพิ่มพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย ให้มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกกลุ่มอายุ หรือเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางไว้สำหรับทำกิจกรรมและใช้ชีวิตมากขึ้น เพื่อให้มีสุขอนามัยและมีสุขภาพจิตที่ดีควบคู่กัน รวมไปถึงการบริการทางด้านสุขภาพที่ครอบคลุมด้วย บางโครงการออกแบบที่อยู่เพื่อตอบโจทย์เรื่องที่อยู่เพื่อสุขภาพในระยะยาวโดยเฉพาะ ก็จะมีการเพิ่มบริการเรื่องการดูแลสุขภาพ การบริการทางด้านการแพทย์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ เพื่อดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง อย่างเช่น NUSASIRI “ณุศาสิริ” ยักษ์ใหญ่ของวงการอสังหาฯ ที่มีการพัฒนาโครงการบ้านสุขภาพแบบองค์รวมครบวงจรแห่งแรกในไทย โดดเด่นในเรื่องของโปรแกรมดูแลและปรับสมดุลสุขภาพ ด้วยคุณภาพระดับโลก ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่ใส่ใจเรื่องของสุขภาพ ธรรมชาติบำบัด การใช้ชีวิตครบทุกมิติ
แนวโน้มในอนาคต 3-5 ปีต่อจากนี้เด็กรุ่นใหม่รวมถึงผู้คนยุคใหม่จะตระหนักและคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้าน คอนโดมิเนียม ทั้งนี้การออกแบบและการเลือกใช้วัสดุหรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติในการก่อสร้างจึงมีส่วนสำคัญอย่างมาก เพราะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม เป็นมิตรต่อผู้อยู่อาศัย อาทิ ผลิตภัณฑ์สีจระเข้ Natural Color ที่มีจุดเด่นเพราะผลิตจากวัสดุจากธรรมชาติ Lime Base ช่วยระบายและถ่ายเทความร้อนได้ดีซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทยอย่างมาก ผสานกับเทคโนโลยีกราฟีนช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะ ทนต่อทุกสภาพอากาศ มลภาวะและรังสี UV ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในเวลาแห้งตัวจึงไม่มีกลิ่นฉุน ปราศจากสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ และที่สำคัญคือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดปัญหาการเกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย นอกจากผลิตภัณฑ์กลุ่มสีแล้วยังมีวัสดุอื่น ๆ ที่ช่วยให้มั่นใจในเรื่องของสุขภาพของผู้อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น อย่างผลิตภัณฑ์กาวยาแนวของจระเข้ ด้วยเทคโนโลยีไมโครแบน (Microban) ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเกิดราดำ ตะไคร่น้ำ ลดการสะสมของคราบสกปรกฝั่งแน่นด้วยสารไฮโดรโฟบิก กลุ่มวัสดุกันลื่นที่ช่วยป้องกันพื้นผิวไม่ให้ลื่น เพื่อความปลอดภัยต่อเด็กและผู้สูงอายุ และกลุ่มน้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ที่จะช่วยให้มีสุขอนามัยดี ๆ สำหรับทุกวัย
โครงการบ้านเพื่อสุขภาพแบบครบวงจร สร้างสมดุลชีวิตและสุขภาพที่ยั่งยืน
โครงการ “ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่” จาก NUSASIRI เป็นโครงการที่อยู่อาศัยและรีสอร์ทเพื่อสุขภาพแบบองค์รวมครบวงจรแห่งแรกในไทย มีความโดดเด่นเพราะตั้งอยู่บนพื้นที่ท่ามกลางธรรมชาติถูกโอบล้อมด้วยขุนเขา บนทำเลทองอย่างเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ด้วยพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ ซึ่งมีอากาศสดชื่นบริสุทธิ์ โอโซนอันดับ 7 ของโลก รวมทั้งโรงแรมระดับ 5 ดาว มีศูนย์บริการทางการแพทย์ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย รวมถึงพื้นที่กิจกรรมอีกมากมาย อย่างเช่น
- บริการด้านสุขภาพกับศูนย์สุขภาพระดับโลกโดย Panacee จากเยอรมนี
- สปอร์ตคลับ ครบเรื่องออกกำลังกาย อย่าง สระว่ายนํ้า, สนามกีฬา
- สวนผักออร์แกนิก ปลอดสารพิษ ขนาด 5 ไร่ โดย Clean Farm
- ฟาร์มเลี้ยงสัตว์
- สนามกอล์ฟขนาด 18 หลุม
- ระบบความปลอดภัยโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้อง CCTV ตลอด 24 ชม.
- ระบบแจ้งเตือน (Nurse Call)
- พื้นที่สำหรับจัดประชุม - สัมมนา, ร้านอาหาร
เรียกได้ว่าเป็นที่อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพอย่างครบวงจร ช่วยสร้างสมดุลชีวิตและการมีสุขภาพที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง แบบ "Perfect Life Retreat" ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ พร้อมสุขภาพที่ดี เป็นการรวมพื้นที่ (Co-Location) เชิงกลยุทธ์ มีทั้งพื้นที่อยู่อาศัย สิ่งอำนวยความสะดวก Co-Working และโปรแกรมสุขภาพเข้าไว้ด้วยกันอย่างครบครัน
แนวโน้มความต้องการที่พักอาศัยเพื่อสุขภาพมีมากขึ้น การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพในอนาคตจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ผู้คนได้มากขึ้นเช่นกัน และตอบสนองความต้องการกับผู้บริโภคทุกวัย ทุกช่วงอายุ ให้อยู่ร่วมกันเป็นสังคมเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
โครงการที่พักอาศัยเพื่อสุขภาพ ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่ (Nusa My Ozone KhaoYai)