ประเด็นสำคัญ
- การเปิดแอร์ทั้งวันช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่าการเปิดปิดแอร์บ่อย ๆ เพราะว่าแอร์จะทำงานหนักในช่วงที่เพิ่งเปิด เพื่อระบายความร้อนสะสมในห้องออกไป
- ถ้าชอบเปิดแอร์ทั้งวันควรจะปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เพื่อป้องกันความร้อนเข้ามาในห้อง ควรจะตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม และอย่าลืมล้างแอร์เป็นประจำทุก 6 เดือนด้วย
อากาศร้อนไม่ไหว! อยากเปิดแอร์ทั้งวันให้เย็นฉ่ำจะเปลืองค่าไฟไหม หรือเปิดปิดแอร์บ่อย ๆ จะประหยัดกว่าหรือเปล่า วันนี้จระเข้มีคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการเปิดแอร์มาฝากกัน แถมยังมีเคล็ดลับมาฝากคนชอบเปิดแอร์ด้วย ถึงเปิดแอร์บ่อย ๆ ก็ดูแลรักษาเครื่องให้ใช้งานได้ยาวนานได้ จะต้องทำยังไงบ้าง ตามจระเข้ไปดูได้เลย!
คำถามยอดฮิตที่เจอบ่อยตอนเปิดแอร์ทั้งวัน
1. เปิดแอร์ทั้งวันเปลืองไฟไหม?
ไม่ต้องกังวลว่าเปิดแอร์ทั้งวันแล้วจะเสียค่าไฟเยอะกว่าเดิม เพราะที่จริงแล้วแอร์จะทำงานหนักแค่ช่วงที่เพิ่งเปิด เพราะเครื่องจะต้องกำจัดความชื้นและความร้อนในอากาศออกไป หลังจากนั้นก็จะทำงานเบาลง
ดังนั้นถึงเราจะเปิดแอร์ไว้ตลอดทั้งวันก็ไม่เป็นปัญหา และเพื่อให้เปิดแอร์แล้วเย็นฉ่ำ แบบไม่ต้องเสียค่าไฟเยอะ จระเข้มีทริกดี ๆ มาฝากกัน ได้แก่
-
ถ่ายเทอากาศก่อนเปิดแอร์
ภาพ: การเปิดแอร์ที่บ้าน
ถ้าเข้าห้องแล้วอากาศร้อนจัด อย่าเพิ่งคว้ารีโมทมาเปิดแอร์ทันที เพราะแอร์อาจจะต้องทำงานหนักเกินไป ควรเปิดประตูหน้าต่าง หรือพัดลมระบายอากาศก่อน เพื่อระบายอากาศร้อนจัดออกจากห้อง และยังช่วยอากาศเก่าในห้องถ่ายเทออกไปก่อน จะช่วยลดกลิ่นอับได้อีกทาง พอเปิดแอร์แล้วก็จะช่วยให้แอร์ทำงานได้เต็มที่แบบไม่หนักเกินไปนั่นเอง และอย่าลืมปิดประตูหน้าต่างให้สนิทก่อนเปิดแอร์ เดี๋ยวแอร์ออกจากห้องจะกลายเป็นเปลืองไฟกว่าเดิม
-
หลีกเลี่ยงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปล่อยความร้อน
ภาพ: การรีดผ้า
เตารีด ไดร์เป่าผม กาต้มน้ำร้อน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่ปล่อยความร้อนออกมา ถ้าใช้ในห้องที่เปิดแอร์ จะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นทันที ส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้แอร์เย็นฉ่ำ ก็ควรจะหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ในห้องจะช่วยได้เยอะ
-
อย่าเพิ่มความชื้นในห้อง
ภาพ: การตากผ้าในบ้าน
อีกหนึ่งวิธีการทำงานของแอร์ คือการกำจัดความชื้นในอากาศ ดังนั้นยิ่งความชื้นในอากาศเยอะ แอร์ก็ยิ่งทำงานหนักมากเกินไปด้วย ถ้ากลัวว่าค่าไฟจะขึ้น ก็ไม่ควรสร้างความชื้นในห้อง ไม่ว่าจะเป็นการตากผ้า ตกแต่งต้นไม้ในห้องเยอะไป หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่สร้างความชื้น ก็ควรเลี่ยงเพื่อให้แอร์ทำงานได้แบบพอดี ๆ
ทริคแนะนำ: สำหรับใครที่ต้องใช้เครื่องทำความชื้นก็อาจเปลี่ยนมาเปิดตามเวลา หรือวางเครื่องไว้คนละมุมกับแอร์ เพื่อให้แอร์ดูดความชื้นเข้าไปน้อยลง ช่วยเซฟค่าไฟและรักษาแอร์ได้อีกทางหนึ่ง
2. แล้วถ้าเปิดปิดแอร์บ่อย ๆ จะกินไฟกว่าจริงไหม?
ภาพ: การเปิดแอร์
คำถามนี้จระเข้ขอตอบเลยว่า “ใช่” เพราะอย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่าแอร์จะทำงานหนักในช่วงที่เพิ่งเปิดใหม่ ๆ ดังนั้นถ้าเราเปิดปิดแอร์บ่อย ๆ นอกจากจะไม่ประหยัดไฟแล้ว ก็ยังทำให้แอร์ทำงานหนักกว่าเดิม ที่สำคัญยังทำให้ตัวเครื่องพังเร็วขึ้นอีก ใครจะเปิดแอร์ก็ควรเปิดยาว ๆ จนห้องเย็น แล้วตั้งเวลาปิดไว้ วิธีนี้จะดีกับตัวเครื่องมากกว่าด้วย
3. ควรเปิดแอร์กี่ชั่วโมงถึงประหยัดค่าไฟ?
ภาพ: บิลค่าไฟบ้าน
สำหรับใครที่อยากรู้ว่าควรเปิดแอร์กี่ชั่วโมงประหยัดค่าไฟ คำถามนี้อาจจะไม่ได้มีคำตอบที่แน่นอน เพราะการทำงานของแอร์จะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมโดยรวมตอนที่เราเปิดแอร์ เช่น
- ตำแหน่งของห้อง ถ้าห้องติดแอร์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกที่รับแดดบ่ายเต็ม ๆ ความร้อนก็จะสะสมอยู่ในห้องเยอะกว่า ตอนเปิดแอร์เครื่องก็จะทำงานหนักมากกว่าแอร์ที่อยู่ในห้องทางทิศเหนือ หรือทิศตะวันออกนั่นเอง
- ช่วงเวลาที่เปิดแอร์ แน่นอนว่าถ้าเปิดแอร์ช่วงเที่ยงบ่ายที่อากาศร้อนจัด เครื่องจะต้องทำงานหนักกว่าการเปิดแอร์ช่วงค่ำ แต่ถ้าอากาศร้อนมากการเปิดแอร์ทั้งวันก็จะช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่า การเปิด ๆ ปิด ๆ
- สภาพอากาศ ถ้าจะให้เทียบว่าเปิดแอร์ช่วงหน้าร้อนกับหน้าหนาว ช่วงหน้าร้อนแอร์ก็ต้องทำงานหนักกว่าอยู่แล้ว เพราะอุณหภูมิสูงกว่า ไหนจะแสงแดดสุดร้อนแรง สภาพอากาศเลยเป็นอีกตัวแปรที่ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นเช่นกัน
“ทางที่ดีเพื่อให้ประหยัดไฟมากที่สุด ก็ควรเปิดแอร์ช่วงค่ำ โดยเปิดประตูหน้าต่างระบายความร้อนสะสมออกไปก่อน แล้วตั้งเวลาปิดแอร์ไว้ช่วงเช้า จะได้ช่วยประหยัดไฟและยังให้แอร์ได้พักเครื่องด้วย”
สำหรับใครที่ชอบอากาศเย็นฉ่ำ ๆ อยากจะเปิดแอร์ทั้งวัน มาดูกันต่อว่าจะถนอมแอร์อย่างไรได้บ้าง ถึงจะใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องเรียกช่างมาดูกันบ่อย ๆ
ถ้าอยากเปิดแอร์ทั้งวันจะถนอมเครื่องอย่างไรได้บ้าง?
1. ปิดประตูหน้าต่างให้สนิทก่อนเปิดแอร์
ภาพ: ควรปิดประตูหน้าต่างให้สนิทก่อนเปิดแอร์
หลังจากเปิดประตูหน้าต่างระบายอากาศแล้ว ก่อนจะกดสวิตช์เปิดแอร์ ควรจะปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เพื่อป้องกันอากาศร้อนเข้ามาในห้อง ที่ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น แทนที่แอร์จะสร้างความเย็นจนคงที่แล้วตัดไฟ กลับต้องทำความเย็นไปเรื่อย ๆ จนไม่ได้พักสักทีนั่นเอง
2. ตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศา เย็นสบายตัวกำลังดี
ภาพ: ปรับแอร์เป็น 25 องศา
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงชอบเปิดแอร์อุณภูมิต่ำ ๆ สัก 18-20 องศา ให้อากาศเย็นฉ่ำสะใจ ซึ่งการปรับแอร์แบบนี้ทำให้เครื่องทำงานหนักแบบสุด ๆ เห็นบิลค่าไฟแล้วแทบเป็นลม ลองเปลี่ยนมาปรับอุณหภูมิที่ 25 องศา ซึ่งเป็นระดับที่ร่างกายรับความเย็นได้แบบสบายตัว ถ้าร้อนหรือหนาวไปก็ปรับให้อยู่ในระดับ 24-28 องศา ก็จะเหมาะกับร่างกายที่สุด แถมยังเหมาะกับค่าใช้จ่ายในกระเป๋าด้วย
3. ทำความสะอาดแอร์เป็นประจำ
ภาพ: ควรถอดฟิลเตอร์แอร์มาล้างเป็นประจำ
เนื่องจากแอร์ทำงานด้วยการดูดอากาศร้อนเข้าไป แล้วเปลี่ยนให้ลมเย็น เราจึงควรทำความสะอาดแอร์กันเป็นประจำ เพราะยิ่งเปิดแอร์ทั้งวันกันบ่อย ๆ ตัวเครื่องก็จะดูดฝุ่นสิ่งสกปรกเข้าไปมากขึ้นเท่านั้น โดยส่วนประกอบที่ไม่ควรมองข้าม ได้แก่
- ฟิลเตอร์แอร์ ควรถอดฟิลเตอร์มาล้างอย่างน้อยเดือนละครั้ง ขึ้นอยู่กับฝุ่นในบ้านด้วย ถ้าฝุ่นเยอะก็ควรล้างบ่อย ๆ เพราะฟิลเตอร์สะอาดจะช่วยให้แอร์ทำงานเต็มที่ ไม่มีฝุ่นสิ่งสกปรกไปอุดกั้น
- ล้างแอร์ นอกจากฟิลเตอร์ ควรเรียกช่างมาล้างแอร์ทุก 6 เดือน เพื่อให้ระบบคอยล์เย็นคอยล์ร้อนทำงานได้เต็มที่ ไม่มีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตัน และยังเป็นการเช็กสภาพแอร์ด้วยว่ายังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่
อยากให้บ้านเย็น ประหยัดแอร์กว่าเดิม ลองใช้สีจระเข้ สตุคกี้ พรีเมี่ยม เป็นตัวช่วย
ภาพ: สีจระเข้ สตุคกี้ พรีเมี่ยม
ถึงจะเปิดแอร์ทั้งวันก็ไม่เปลืองไฟอย่างที่คิด และจะยิ่งประหยัดขึ้นไปอีก ถ้าเลือกสีทาบ้านที่ช่วยลดความร้อน ทำให้บ้านเย็นตามธรรมชาติ เซฟค่าไฟแบบจุก ๆ อย่าลืมเลือกใช้สีจระเข้ สตุคกี้ พรีเมี่ยม สีที่มีคุณสมบัติระบายและถ่ายเทความร้อน ช่วยให้ลดอุณหภูมิในบ้านให้น้อยลง พอห้องร้อนน้อยลง แอร์ก็เย็นเร็วขึ้น ทำงานเบาลงไปเยอะ แถมยังมีจุดเด่นด้านอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น
- เป็นสีสร้างลายที่ช่วยตกแต่งบ้านให้มีเอกลักษณ์ สร้างลายหินอ่อนหรือปูนขัดมันได้ง่าย ๆ
- ไม่มีกลิ่นฉุนของสารระเหย (NON VOCs) และปราศจากสารก่อมะเร็ง (Formaldehyde)
- ดูดซับคาร์บอนไดออกไซต์ในระหว่างกระบวนการแห้งตัวของสี ป้องกันการเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำ
- เนื้อสีมีคุณสมบัติความเป็นด่างจึงผสานกับผิวปูนใหม่ได้ดี เลยไม่ต้องทาสีรองพื้น
ลองเข้าไปหาตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และสีจระเข้กันก่อนได้ที่เว็บไซต์ของเรา เพียงเลือกภูมิภาค จังหวัด และเขตหรืออำเภอ เพียงเท่านี้ก็จะรู้แล้วว่าร้านค้าแถวบ้านร้านไหนที่มีสินค้าคุณภาพรออยู่ แล้วก็เลือกสินค้าคุณภาพไปดูแลบ้านตั้งแต่ภายในสู่ภายนอกกันได้เลย!
สั่งซื้อ: สีจระเข้ สตุคกี้ พรีเมี่ยม ได้เลยตอนนี้ คลิก, ค้นหาร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จระเข้ หรือ ชมผลิตภัณฑ์จระเข้อื่นๆ คลิก