ประเด็นสำคัญ
- ปัญหาบ่อปลาน้ำเขียวเกิดจากตะกอนต่าง ๆ ซึ่งอาจจะมาจากระบบหมุนเวียนน้ำไม่เพียงพอ ตำแหน่งที่ตั้งอยู่กลางแดด เหมาะกับการเจริญเติบโตของตะไคร่ หรือเพราะไม่ได้ปลูกพืชน้ำ และทำความสะอาดไม่บ่อยพอ
- วิธีแก้ไขน้ำเขียวในบ่อปลาทำได้หลายวิธี ทั้งเลือกระบบหมุนเวียนน้ำให้เหมาะสม ปลูกพืชน้ำไม่ผลัดใบเพื่อเพิ่มร่มเงา และทำความสะอาดให้เหมาะสมเป็นประจำ
บ้านไหนมีบ่อปลาในสวนที่บ้าน อาจจะเคยเจอปัญหาบ่อปลาน้ำเขียวกันมาบ้าง ทั้งที่ทำความสะอาดเยอะแล้วแต่น้ำในบ่อปลาก็ยังเป็นสีเขียว ไม่น่ามองแบบสุด ๆ วันนี้จระเข้จึงอยากจะพาทุกคนไปดูสาเหตุที่แท้จริง และวิธีแก้ไขว่าควรจะทำอย่างไรให้น้ำกลับมาใส ไม่กลับไปเขียวอีก!
สาเหตุที่ทำให้บ่อปลาน้ำเขียว เกิดจากอะไรได้บ้าง?
1. ตะกอนที่ก้นบ่อ
ภาพ: บ่อปลาในบ้าน
“ตะกอนต่าง ๆ สะสมจนน้ำกลายเป็นสีเขียว”
ตะไคร่น้ำ คราบไคลปลา ขี้ปลา หรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ จากภายนอก ซึ่งสะสมอยู่ในตามขอบบ่อ และตกลงไปกองรวมกันอยู่ที่ก้นบ่อ ต่างก็เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำในบ่อปลาเป็นสีเขียวได้ทั้งนั้น หากไม่ได้ทำความสะอาดเป็นประจำ ก็จะทำให้น้ำขุ่น กลายเป็นสีเขียว ทำให้บ่อปลาสวย ๆ ดูโทรมลงไป แถมส่งผลต่อสุขภาพปลาในบ่อด้วย
2. ระบบหมุนเวียนน้ำไม่เพียงพอ
ภาพ: บ่อปลาน้ำเขียว
“ระบบหมุนเวียนน้ำควรมีขนาดเข้ากับบ่อ”
โดยปกติบ่อปลาจะต้องมีระบบหมุนเวียน ระบบกรองน้ำอยู่แล้ว เพราจะช่วยหมุนเวียนน้ำให้มีออกซิเจนเพียงพอ ป้องกันการเจริญเติบโตของตะไคร่น้ำได้ แต่ถ้าบ่อปลาขนาดใหญ่ที่ติดตั้งระบบหมุนเวียนน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้การไหลเวียนน้ำไม่มากพอ จนเกิดตะไคร่น้ำขึ้นมาได้ ควรคำนวณระบบปั๊มน้ำให้เข้ากับขนาดบ่อ และติดตั้งในจุดที่ทำความสะอาดได้สะดวก เพื่อให้บำรุงรักษาง่าย ป้องกันปัญหาบ่อปลาน้ำเขียวได้ดีขึ้น
3. บ่อปลาโดนแสงแดดเยอะเกินไป
ภาพ: บ่อปลากลางแจ้ง
“บ่อปลาโดนแดดเต็ม ๆ ตะไคร่เจริญเติบโตดีกว่าเดิม”
หลายคนอาจจะคิดว่าถ้าทำบ่อปลาไว้ตรงจุดที่โดนแดดเยอะ ๆ แสงแดดและความร้อนจะช่วยฆ่าเชื้อโรค ป้องกันเรื่องสิ่งสกปรกได้ แต่จริง ๆ แล้วถ้าโดนแสงแดดเต็ม ๆ ทั้งวัน จะทำให้เกิดตะไคร่น้ำได้ง่าย เพราะมีพืชสีเขียวเหล่านี้สังเคราะห์แสงได้ดี จึงทำให้น้ำในบ่อปลาเป็นสีเขียวนั่นเอง
4. ไม่มีไม้น้ำช่วยสร้างความสมดุล
ภาพ: บ่อปลาสไตล์โมเดิร์น
“ไม่มีพืชน้ำช่วยปรับสมดุล”
บางบ้านเลือกทำบ่อปลาอย่างเดียว แต่ไม่ปลูกไม่น้ำร่วมด้วย จึงทำให้น้ำในบ่อมีออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ไม่สมดุล เมื่อแดดส่องลงมาก็ทำให้น้ำในบ่อมีอุณหภูมิสูงขึ้น ตะไคร่น้ำจึงเจริญเติบโตได้ดียิ่งกว่าเดิม กลายเป็นบ่อปลาน้ำเขียวแก้เท่าไรก็ไม่หายเสียที
5. ทำความสะอาดไม่บ่อยพอ
ภาพ: บ่อปลาน้ำขุ่นส่งผลต่อปลา
“ทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง”
ถึงจะทำความสะอาดบ่อปลาเป็นประจำแล้ว แต่ก็ยังเจอปัญหาบ่อปลาน้ำเขียว อาจแปลว่าเว้นระยะเวลาทำความสะอาดนานเกินไป ควรล้างบ่อปลาอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และใส่คลอรีน ด่างทับทิม หรือจุนสี เพื่อป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำ จะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้ดีขึ้นเยอะ
รู้จักกับสาเหตุแล้วต่อไปเราไปดูวิธีแก้ไขน้ำเขียวในบ่อปลาที่จระเข้นำมาฝากกันดีกว่า ว่าควรจะทำอย่างไรไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก
วิธีแก้ไขน้ำเขียวในบ่อปลาทำอย่างไรไม่ให้กลับมาเป็นอีก
1. เพิ่มระบบกรองน้ำ
ภาพ: บ่อกรองน้ำ
แน่นอนว่าถ้าระบบกรองน้ำ ระบบหมุนเวียนน้ำไม่เพียงพอ ทำให้เกิดตะไคร่น้ำเกาะติดแน่นตามบ่อได้ บวกกับสิ่งสกปรกจากปลา และสิ่งแวดล้อมภายนอกอีก ยิ่งสกปรกไปกันใหญ่ โดยวิธีเลือกระบบหมนุเวียนน้ำดูตรงไหนบ้าง ไปดูกัน
- บ่อกรอง บ่อกรองน้ำควรมีขนาดเป็น 1 ใน 3 ของบ่อ และบ่อกรองน้ำควรลึกกว่าบ่อปลา เพื่อให้น้ำไหลไปสู่บ่อกรองได้สะดวกขึ้น น้ำหมุนเวียนได้ดีขึ้น
- ปั๊มน้ำ ควรเลือกปั๊มน้ำแบบจุ่ม (Submersible Pump) จะช่วยเพิ่มออกซิเจนในบ่อปลาได้เป็นอย่างดี ควรเลือกปั๊มที่มีอัตราการไหล แรงดัน ความสูง และกำลังวัตต์ ให้เหมาะสม
- ขนาดปั๊มน้ำ ควรเลือกขนาดปั๊มให้เหมาะกับบ่อ ถ้าเลือกใหญ่กว่าบ่อมากไป จะเสียค่าใช้จ่ายเยอะเกินเหตุ แต่ถ้าเลือกเล็กเกินไปจะทำให้ปั๊มทำงานหนักเกินไป นอกจากจะไม่ช่วยป้องกันปัญหาบ่อปลาน้ำเขียวแล้ว ยังทำให้ปั๊มพังต้องมาซ่อมแซมกันยกใหญ่
2. หาต้นไม้เพิ่มร่มเงาให้พอดี
ภาพ: พืชน้ำในบ่อปลา
อย่างที่บอกไปแล้วว่าควรจะปลูกพืชน้ำเพื่อให้ร่มเงากับบ่อปลาเสียหน่อย เพื่อป้องกันปัญหาบ่อปลาน้ำเขียวในระยะยาว สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าควรปลูกพืชอะไร และปลูกตรงไหนดี จระเข้มีคำตอบมาฝากกัน
- พืชที่ควรปลูก ควรเลือกพรรณไม้น้ำ จะเลือกเป็นแบบพืชใต้น้ำ ลอยน้ำ หรือชายน้ำก็ได้ ควรเป็นพืชไม่ผลัดใบ เพื่อไม่เป็นการเพิ่มสิ่งสกปรกในบ่อ เช่น บัว กก ธูปฤาษี หรือผักตบ
- ตำแหน่งที่ควรปลูก ควรปลูกพืชไว้ตรงจุดที่โดดแดดเต็มที่ เพื่อเป็นการให้ร่มเงา ลดอุณหภูมิในน้ำ และยังเป็นพื้นที่ให้ปลาใช้อยู่อาศัย และวางไข่ได้อีกด้วย
3. ทำความสะอาดเป็นประจำ เพิ่มสมดุลในน้ำด้วย
ภาพ: การทำความสะอาดบ่อปลา
ทริกง่าย ๆ ในการทำความสะอาดบ่อปลา พร้อมป้องกันน้ำในบ่อปลาเป็นสีเขียว คือการตักเศษฝุ่น ใบไม้ที่ผิวน้ำ ขัดและดูดตะไคร่น้ำภายในเป็นประจำทุกเดือน โดยไม่จำเป็นต้องขัดตะไคร่น้ำออกจากขอบบ่อ เพราะตะไคร่ตรงบ่อจะทำหน้าที่กรองน้ำตามธรรมชาติ และอย่าลืมใส่จุลินทรีย์เพิ่มเติมอย่าง คลอรีน ด่างทับทิม และจุนสีอย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ เมื่อน้ำปรับสภาพได้ดีแล้วก็สามารถเว้นระยะการทำความสะอาดให้นานขึ้นได้
พอทีปัญหาบ่อปลาน้ำเขียว! กำจัดตะไคร่ด้วยน้ำยาจระเข้ ขจัดคราบตะไคร่น้ำ
ภาพ: น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบตะไคร่น้ำ
อยากจะจบปัญหาบ่อปลาน้ำเขียวให้ไม่กลับมาเป็นอีก นอกจากวิธีแก้ไขน้ำเขียวในบ่อปลาที่จระเข้นำมาฝากกัน ควรถ่ายน้ำออกจากบ่อให้หมด แล้วเลือกใช้น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบตะไคร่น้ำ ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อขจัดเชื้อรา ตะไคร่น้ำ สาหร่าย และพืชสีเขียวอื่น ๆ วิธีใช้งานก็สะดวกสุด ๆ ได้แก่
- ผสมน้ำยากับน้ำตามอัตราส่วน เช่น ใช้ฉีดพ่นผสม 1 : 500 ใช้ฆ่าเชื้อโรคผสม 1 : 1,000 หรือไม่ต้องผสมน้ำเลยเมื่อใช้ขจัดคราบหนัก
- เทน้ำยาหรือฉีดพ่นลงบนพื้นที่ที่ต้องการ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง
- เมื่อครบเวลา ล้างน้ำยาออกด้วยน้ำสะอาด ใช้แปรงขัดช่วย และถ้าคราบยังไม่ออก ก็ควรทำซ้ำอีกครั้ง
สั่งซื้อ: น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบตะไคร่น้ำ ได้เลยตอนนี้ คลิก
อยากได้ผลิตภัณฑ์จระเข้มาดูแลบ้าน ลองเข้าไปหาตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันได้ที่เว็บไซต์จระเข้ เพียงเลือกภูมิภาค จังหวัด และเขตหรืออำเภอ เพียงเท่านี้ก็จะรู้แล้วว่าร้านค้าแถวบ้านร้านไหนที่มีสินค้าคุณภาพรออยู่ หรือจะลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราดูก่อนก็ได้ ว่าจะเลือกผลิตภัณฑ์แบบไหนดี ให้ตอบโจทย์บ้านของเรามากที่สุด ค้นหาร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จระเข้