ประเด็นสำคัญ
- คุณสมบัติของพื้นโรงจอดรถที่ดี ควรจะเป็นพื้นที่ภายนอกโดยเฉพาะ มาพร้อมพื้นผิวหยาบทนต่อแรงเสียดสี และควรจะทนต่อน้ำและความชื้น จะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานมากกว่าเดิม
- พื้นโรงจอดรถเลือกได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ทรายล้าง อีพ็อกซี่ คอนกรีตบล็อก และพื้นคอนกรีตทั่วไป ซึ่งเป็นพื้นที่แข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานหนัก
ทุกวันนี้มีพื้นโรงจอดรถให้เลือกมากมายหลายประเภท การเลือกวัสดุจึงต้องคำนึงถึงพื้นที่ใช้งาน และความเหมาะสมต่าง ๆ เพื่อลดปัญหาพื้นทรุด พื้นแตกร้าว พื้นไม่เรียบเนียน นอกจากจะเสียเวลาซ่อมแซมแล้ว ยังต้องเสียเงินซ่อมแซมอีก แล้ววัสดุปูพื้นโรงจอดรถที่ดีควรจะมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ตามจระเข้ไปดูกัน!
คุณสมบัติของพื้นโรงจอดรถควรมีอะไรบ้าง?
ภาพ: ที่จอดรถบ้าน
- พื้นภายนอกโดยเฉพาะ ถ้าจะใช้วัดสุปูพื้นโรงจอดรถ ควรใช้วัสดุที่เหมาะกับการใช้งานภายนอกโดยเฉพาะ เพราะจะทนทานกว่าการใช้งานภายใน ปลอดภัยจากการแตกร้าว ต้องมาซ่อมกันให้เสียเวลาและค่าใช้จ่าย
- พื้นผิวหยาบ เพราะพื้นโรงจอดรถเป็นพื้นที่ต้องเจอกับการเสียดสีจากล้อรถยนต์ตลอดเวลา พื้นที่ดีจึงควรมีพื้นผิวหยาบ เพื่อให้ทนทาน ใช้งานได้ดียิ่งกว่าเดิม
- ทนน้ำและความชื้น ถ้าเป็นโรงจอดรถกลางแจ้งที่ไม่มีหลังคา ก็ควรจะเลือกพื้นให้ทนน้ำและความชื้น จะได้ป้องกันการรั่วซึม ที่อาจทำให้เกิดการแตกร้าวในภายหลัง
รู้จักคุณสมบัติแล้ว เราไปดูกันต่อว่าจะเลือกพื้นโรงจอดรถแบบไหนดี ให้เหมาะกับการใช้งานแถมยังมีปัญหาน้อย ไม่ต้องคอยซ่อมให้ปวดหัว พร้อมแล้วก็ไปดูกันต่อได้เลย!
เลือกพื้นโรงจอดรถแบบไหนดี? ปัญหาน้อย แข็งแรงทนทาน
1. กระเบื้องแกรนิตโต้
ภาพ: พื้นลานจอดรถกระเบื้องแกรนิตโต้
“มีส่วนผสมของหินจริง แข็งแกร่ง น่าใช้”
กระเบื้องแกรนิตโต้ได้รับความนิยมมาก เพราะแข็งแกร่ง มีส่วนผสมของผงหินแกรนิตแท้ แล้วหลอมด้วยความร้อนสูง จึงได้กระเบื้องที่สวยงาม ทันสมัย ลวดลายให้เลือกเยอะ ส่วนใหญ่ปูพื้นภายในบ้าน หากนำมาปูพื้นโรงจอดรถ แนะนำ ควรเลือกกระเบื้องพื้นผิวหยาบ ไม่ลื่น ราคาประมาณ 200 - 400 บาท/ตร.ม.
2. ทรายล้าง
ภาพ: พื้นผิวทรายล้าง
“ทรายล้าง ทนทาน ควรสร้างอย่างถูกวิธี”
ทรายล้างเป็นรูปแบบพื้นโรงจอดรถ ที่เหมาะสำหรับพื้นที่นอกบ้าน ควรเกลี่ยให้เรียบเนียน ใช้กรดเกลือล้างผิวปูนออกให้หมด พร้อมทั้งควรเคลือบน้ำยาเพื่อป้องกันตะไคร่น้ำ เพราะทรายล้างเป็นพื้นที่มีส่วนผสมปูนซีเมนต์ขาวกับเม็ดกรวด ทำให้เกิดคราบสกปรกได้ง่าย สามารถเลือกแบบและขนาดเม็ดกรวดที่ต้องการได้ ราคาประมาณ 300 - 450 บาท/ตร.ม.
3. อีพ็อกซี่
ภาพ: พื้นอีพ็อกซี่
“พื้นอีพ็อกซี่ตอบโจทย์การใช้งานในที่สาธารณะ”
พื้นอีพ็อกซี่เป็นพื้นที่ไม่ค่อยเหมาะกับเป็นพื้นโรงจอดรถที่บ้านเท่าไรนัก แต่ก็ใช้ได้หากตอบโจทย์ความต้องการ โดยส่วนใหญ่มักพบเห็นตามห้างสรรพสินค้า หรือพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ เพราะเป็นประเภทพื้นที่ดูแลทำความสะอาดง่าย เลือกสีสันได้หลากหลาย และยังปลอดภัยจากการรั่วซึม คราบน้ำ ทนแรงกระแทก ราคาประมาณ 200 - 300 บาท/ตร.ม.
4. บล็อกคอนกรีต
ภาพ: พื้นบล็อกคอนกรีต
“แข็งแกร่ง สร้างง่าย เล่นลวดลายได้”
บล็อกคอนกรีตปูพื้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่หลายบ้านเลือกใช้เป็นพื้นโรงจอดรถ เพราะแข็งแรงทนทาน เป็นวัสดุที่มีขนาดใหญ่ เหมาะกับใช้งานกลางแจ้ง ทนต่ออากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดี แถมยังก่อสร้างง่ายไม่เปลืองค่าแรง มีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย เพิ่มลูกเล่นให้พื้นโรงจอดรถได้ง่าย ๆ
5. พื้นคอนกรีต
ภาพ: ลานจอดรถพื้นคอนกรีต
“ปล่อยเปลือยได้ ขัดมันก็ดี”
พื้นคอนกรีตได้รับความนิยมมาก เพราะก่อสร้างได้สะดวก ไม่ยุ่งยาก เพียงระวังเรื่องรอยแตกร้าว หน้าปูนหลุดร่อน ไม่เป็นหลุม หากไม่ชอบแบบเปลือยสามารถขัดมันได้ตามสะดวก และยังสามารถกำหนดความหนาบางได้ตามที่ต้องการ ราคาประมาณ 200 - 500 บาท/ตร.ม.
พื้นโรงจอดรถเจอความชื้นบ่อย อย่าลืมใช้น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบตะไคร่น้ำ
ภาพ: น้ำยาจระเข้ ขจัดคราบตะไคร่น้ำ
เป็นยังไงกันบ้างกับวัสดุปูพื้นโรงจอดรถแต่ละประเภท มีความแข็งแรงที่ต่างกันออกไป ทั้งคุณสมบัติ วิธีก่อสร้าง และการใช้งาน ดังนั้นควรเลือกประเภทที่ตอบโจทย์ เพื่อลดปัญหาที่จะตามมา ถ้าเจอปัญหาตะไคร่น้ำ เชื้อรา ควรเลือกน้ำยาจระเข้ ขจัดคราบตะไคร่น้ำ ที่ออกแบบมาใช้งานด้านนี้โดยเฉพาะ ใช้ง่ายเพียงราดน้ำยาทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง แล้วขัดออก พื้นก็กลับมาสะอาดพร้อมใช้เหมือนใหม่
จะเป็นส่วนไหนของบ้านตั้งแต่หลังคาไปจนถึงชั้นใต้ดิน จระเข้ก็มีผลิตภัณฑ์พร้อมช่วยปกป้อง ถ้ายังไม่รู้จะไปซื้อที่ไหนดี ลองเข้าไปหาตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันได้ที่เว็บไซต์จระเข้ เพียงเลือกภูมิภาค จังหวัด และเขตหรืออำเภอ เพียงเท่านี้ก็จะรู้แล้วว่าร้านค้าแถวบ้านร้านไหนที่มีสินค้าคุณภาพรออยู่ หรือจะลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราดูก่อนก็ได้ ว่าจะเลือกผลิตภัณฑ์แบบไหนดี ให้ตอบโจทย์บ้านของเรามากที่สุด