3 ประตูห้องนี้ที่มักผุพังเร็วที่สุด
หากถามว่าห้องใดในบ้านเป็นห้องที่ใช้งานบ่อยที่สุด คุณคงตอบว่า “ห้องนอน” หรือ “ห้องน้ำ” แต่หากถามว่า ประตูบานใดในบ้านที่ใช้บ่อยที่สุด ก็ต้องมีสับสนกันบ้าง เพราะว่าทุกวันนี้บ้านจัดสรรได้ทำบล็อกประตูมาเหมือน ๆ กันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือ ทาวน์โฮม หรือแม้กระทั่งคอนโดเอง ก็มีประตูสำเร็จรูปเพื่อใช้เปลี่ยนได้ตามขนาดเดียวกันทั้งหมด ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป
ทีนี้เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเฉลยกันเลยว่า ประตูห้องใดมักจะเสียบ่อยที่สุด นั่นก็คือ 3 ห้องนี้นั่นเอง
1) ประตูหน้าบ้าน - เพราะได้รับการเปิดปิดมากที่สุด และต้องปกป้องบ้านทั้งหลังจึงต้องใส่ระบบกลอน และล็อคอย่างแน่นหนา
2) ห้องน้ำ – เพราะเป็นห้องหนึ่งที่สมาชิกทุกคนในบ้านในบ่อยที่สุด อย่างน้อยก็ต้องถูกเปิดชั่วโมงละ 1 ครั้ง
3) ห้องนอน – บางคนใช้ชีวิตในห้องนอนเป็นหลัก จึงต้องเปิดปิดบ่อยเป็นพิเศษ จึงมักเกิดอาการเสื่อมเป็นธรรมดา
นอกจากนี้ประตูยังเสื่อมพร้อม ๆ กันทั้งบ้านเนื่องจากมีอายุการใช้งานที่เท่ากัน และเกิดปัญหาจากบานพับรองรับน้ำหนักประตูได้ไม่ดีเท่ากับตอนที่ติดตั้งครั้งแรก แต่ปัญหาที่ต้องเปลี่ยนประตู มีทั้งการสึกหรอของประตูเอง และเกิดการบวมหรือตกร่องจนประตูปิดได้ไม่เหมือนเดิม จึงต้องหาเวลาเปลี่ยนใหม่ด่วน ๆ
แล้วอย่างนี้
เราเปลี่ยนประตูเองได้ไหม?
1) ประตูสำเร็จรูปมีขนาดเท่าไหร่
คุณสามารถเดินไปยังแผนกขาย “ประตูสำเร็จรูป” ได้ทุกร้านขายวัสดุก่อสร้าง จะมีกรณีเดียวที่ต้องสั่งตัดประตู ก็คือ บ้านที่ได้รับการออกแบบขนาดประตูขึ้นมาเอง โดยประตูมาตรฐานที่มีจำหน่ายทั่วไป มีขนาดดังนี้
ประตูห้องน้ำ
70 x 200 หรือ 70 x 180 เซนติเมตร
ประตูห้องนอน
90 x 200 หรือ 90 x 200 เซนติเมตร
ประตูบานเดียวทั่วไป
90 x 200 หรือ 100 x 100 เซนติเมตร
ข้อมูลจากเว็บไซต์ : www.bangkokpvc.com
2) ประตูสั่งตัด
ส่วนประตูสั่งตัดนั้นอาจจะมีขนาดเท่ากับประตูสำเร็จรูป แตกต่างกันตรงที่วัสดุ ส่วนมากมักจะเป็นไม้ชนิดพิเศษ และประตูเก่าอาจจะมีความลึกที่แตกต่างจากประตูสำเร็จรูป หรือทางเจ้าของบ้านอยากเปลี่ยนประตูให้มีความพิเศษ สวยงามมากขึ้น จึงต้องสั่งตัดตามร้านออกแบบประตู ซึ่งปัจจุบันก็มีราคาเริ่มต้นบานละ 1,000 บาท ขึ้นไป
แตกหากกรณีต้องเปลี่ยนทั้งวงกบใหม่ทั้งหมด ก็จะมีค่าแรงช่างอยู่ที่บานละ 1,000 – 2,000 บาท (ไม่รวมค่าอุปกรณ์) แต่บางครั้งเป็นการเก็บรอยประตูเก่า ที่อาจจะต้องเจาะวงกบใหม่
หากประตูบ้าน หรือ หน้าต่างของคุณมีปัญหาน้ำรั่วซึมโดยไม่ถึงขั้นต้องเปลี่ยนประตูใหม่ ควรสำรวจและประเมินอาการก่อนเพราะบางทีการใช้ผลิตภัณฑ์ซิลิโคนยิงกรอบประตูหน้าต่างให้ลงล็อคขึ้นก็ช่วยให้น้ำไม่ไหลซึมแล้วครับ (สินค้าแนะนำคือ จระเข้ โพลี ยู ซีล ทาสีทับได้)
นอกจาก 3 ห้องที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีประตูอีกประเภทหนึ่งที่พังเร็วมากนั่นก็คือ “ประตูบานเฟี้ยม” ซึ่งใช้การเปิดปิดคล้ายกับบานเลื่อน เพื่อใช้กั้นระหว่างห้อง 2 ห้อง เพื่อแยกพื้นที่การใช้งานบางช่วงเวลา บ้านที่มีประตูแบบนี้ถือว่ามีรสนิยมมากทีเดียว
หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์จระเข้ สามารถโทรสอบถามได้ที่ 02 710 1112
บทความที่เกี่ยวข้อง
ตามหลักฮวงจุ้ยประตูหน้าต่างบ้าน ควรมีทั้งหมดกี่บาน
ประตูและหน้าต่าง แต่ละประเภท มีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันอย่างไร ?
6 ประเภทหน้าต่างที่ได้รับความนิยมเลือกใช้