ประเด็นสำคัญ
- หลังคาเซรามิกเป็นหลังคาที่ทำจากดินเหนียวอัดขึ้นเป็นรูป แล้วนำไปผ่านกระบวนการเผาด้วยความร้อนสูง ทำให้ได้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน มีให้เลือกทั้งผิวมันเงาและผิวกึ่งเงา ได้ตามรูปแบบที่ต้องการ
- กระเบื้องหลังคาเซรามิกถือว่ามีจุดเด่นทั้งเรื่องความทนทานต่อความร้อน อายุการใช้งานยาวนาน สีสันให้เลือกหลากหลาย ไม่เป็นสนิม และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะรีไซเคิลได้ด้วย
วัสดุมุงหลังคายุคใหม่มีให้เลือกหลากหลายประเภท ซึ่งก็มีคุณสมบัติและความสวยงามที่แตกต่างกันไป ในบรรดาตัวเลือกที่มีอยู่ หลังคาเซรามิกถือเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะโดดเด่นด้วยผิวที่มันวาว สวยงาม ทันสมัย และช่วยเสริมความหรูหราให้กับบ้านได้อย่างลงตัว
ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันแดด ฝน และลม รวมถึงช่วยลดความร้อนภายในบ้าน ทำให้หลังคาเซรามิกเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจยังมีข้อสงสัยว่าหลังคาเซรามิกดีจริงหรือไม่ และช่วยคลายความร้อนได้ดีเพียงใด จระเข้จะพาไปหาคำตอบกัน!
กระเบื้องหลังคาเซรามิกคืออะไร? ดีไหม?
“กระเบื้องมุงหลังคาที่ทำจากวัสดุเซรามิก แข็งแรง ทนทาน สีสันสดใส”
หลังคาเซรามิก คือ กระเบื้องมุงหลังคาที่ผลิตจากวัสดุเซรามิก ซึ่งทำด้วยการนำดินเหนียวหรือดินพิเศษมาอัดขึ้นรูปโดยมีความหนาประมาณ 2.5-2.7 เซนติเมตร พร้อมเคลือบสีเพิ่มความสวยงามแล้วนำไปผ่านกระบวนการเผาในอุณหภูมิสูง 1,100 องศาเซลเซียส กระบวนการนี้จะช่วยให้กระเบื้องมุงหลังคาที่ได้แข็งแรง ทนทาน และพื้นผิวให้เลือกทั้งแบบมันเงาและกึ่งเงา พร้อมสีสันที่ติดทนนาน หลังคาเซรามิกจึงเป็นตัวเลือกที่ทั้งคงทนและสวยงาม เหมาะกับบ้านที่ต้องการความหรูหราและโดดเด่น
5 จุดเด่นของหลังคาเซรามิก ที่คนรักบ้านไม่ควรพลาด!
1. ทนต่อความร้อนและป้องกันการซีดจาง
“ผิวเคลือบช่วยให้ความร้อนสะสมอยู่ใต้หลังคาน้อยลง”
สำหรับบ้านที่มีปัญหาเรื่องความร้อน กระเบื้องหลังคาเซรามิกถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีคุณสมบัติช่วยสะท้อนความร้อนได้บางส่วน พื้นผิวเคลือบทำให้ความร้อนใต้แผ่นกระเบื้องสะสมอยู่น้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับกระเบื้องที่ไม่ได้เคลือบอย่างเช่นกระเบื้องคอนกรีต แถมหลังคาเคลือบเซรามิกยังช่วยมีสีสันสดใส ไม่ซีดจางง่าย แม้จะเผชิญกับแสงแดดแรงเป็นเวลานาน
2. มีอายุการใช้งานยาวนาน
“ถ้ารักษาอย่างเหมาะสม ก็จะใช้งานได้นานถึงหลายสิบปี”
ด้วยวัสดุที่แข็งแรงและกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน กระเบื้องหลังคาเซรามิกจึงมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหลังคาประเภทอื่น ๆ โดยทั่วไปใช้งานได้ยาวนานถึง 40 ปีหรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ผลิต การติดตั้งที่ถูกวิธี และการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม เช่น การทำความสะอาด การตรวจสอบรอยรั่วเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยให้หลังคาบ้านทนทานและสวยงามตลอดอายุการใช้งาน
3. มีหลากหลายสีสันและรูปแบบให้เลือก
“มีให้เลือกทั้งลอน เรียบ ผิวมันเงา กึ่งเงา”
ใครที่เน้นดีไซน์ตกแต่งบ้าน กระเบื้องหลังคาเซรามิกมีให้เลือกทั้งรูปลอนหรือแบบเรียบ มีทั้งผิวมันเงาและกึ่งเงาที่สวยงาม ซึ่งช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับบ้าน เท่านั้นยังไม่พอผิวหลังคาเซรามิกยังสะท้อนแสงแดดได้ดี ทำให้สีของกระเบื้องดูสดใสยิ่งกว่าเดิมด้วย
4. กันน้ำและไม่เป็นสนิม
“ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ไม่เป็นสนิมแน่นอน”
ไม่ต้องกลัวเรื่องความชื้นและสนิม เพราะหลังคาเคลือบเซรามิกช่วยให้น้ำซึมผ่านเข้าวัสดุน้อยลง ช่วยป้องกันความชื้นไม่ให้ซึมผ่านเข้าสู่ตัวกระเบื้องหรือโครงสร้างด้านใน และยังใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของโลหะ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดสนิม จึงใช้กับพื้นที่ที่ต้องเจอกับน้ำเป็นประจำอย่างหลังคาได้อย่างลงตัว
5. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“กระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย รีไซเคิลได้”
หลังคาเซรามิกยังโดดเด่นในเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติอย่างดินเหนียว กระบวนการผลิตยังถูกออกแบบให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การควบคุมการปล่อยของเสีย การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้หลังคาเซรามิกยังรีไซเคิลได้ หลังหมดอายุการใช้งาน โดยนำไปบดเพื่อใช้เป็นวัสดุในงานก่อสร้างอื่น ๆ กระเบื้องหลังคาเซรามิกจึงถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนในระยะยาว
หลังคาเซรามิกเหมาะกับบ้านสไตล์ไหนบ้าง?
1. บ้านสไตล์คลาสสิก
“ใช้รูปลอน สีเรียบง่าย พื้นผิวเงางาม”
บ้านสไตล์คลาสสิกส่วนใหญ่ จะเน้นการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ เน้นความหรูหราและละเอียดอ่อน เช่น เสาโรมัน หน้าบันที่โค้งงดงาม หรือผนังลายปูนปั้น หลังคาเซรามิกจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเสริมบรรยากาศของบ้านสไตล์นี้ โดยควรเลือกกระเบื้องหลังคาตามแนวทางดังนี้
- เลือกหลังคาเซรามิกมีรูปลอน เลือกใช้สีเรียบง่าย เช่น สีเทาเข้ม สีน้ำตาลอ่อน หรือแบบเคลือบเงาที่เข้ากับสไตล์คลาสสิก
- พื้นผิวของกระเบื้องมีความเงางาม ช่วยสะท้อนแสงแดดให้บ้านดูโดดเด่น มีมิติมากยิ่งขึ้น
- ใช้สีหลังคาเซรามิกที่ตัดกับโทนสีผนัง เพื่อดึงจุดเด่นของดีไซน์บ้าน
2. บ้านสไตล์โมเดิร์น
“เลือกแบบเรียบ สีเข้มน่าค้นหา และใช้ผิวด้าน”
บ้านสไตล์โมเดิร์นส่วนใหญ่จะเน้นความเรียบง่าย และการใช้เส้นสายที่ชัดเจนและรูปทรงเรขาคณิต มีพื้นที่เปิดโล่งและใช้วัสดุที่ผสมผสานความทันสมัย เช่น กระจก เหล็ก และปูน หลังคาเซรามิกจึงตอบโจทย์ได้ดี เพราะมีแบบผิวเรียบที่ดูทันสมัยและปรับให้เข้ากับดีไซน์แบบต่าง ๆ ได้
- เลือกกระเบื้องหลังคาเซรามิกแบบเรียบแผ่นใหญ่ เพื่อให้เข้ากับโครงสร้างทันสมัย
- ใช้สีโทนเข้ม เช่น สีเทา สีดำ สีเอิร์ธโทน เช่น สีเทาอมเขียว หรือเทาอมน้ำตาล
- ผิวด้านเหมาะสำหรับบ้านที่เน้นความเรียบง่าย แต่ยังมีความหรู
หลังคาแบบไหนก็มีโอกาสเจอปัญหารั่วซึมช่วงหน้าฝน!
ไม่ว่าจะเป็นวัสดุมุงหลังคาแบบไหน ถ้าเจอฝนตกหนัก ลมพายุพัดเอากิ่งไม้ สิ่งสกปรกมากระทบกับหลังคาเยอะ ๆ ก็ทำให้เกิดปัญหารั่วซึมได้ ถ้ารู้วิธีซ่อมและวิธีป้องกันไว้ก่อน ก็จะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมไปได้มาก ถ้าสนใจตามไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ รับมือปัญหาหน้าฝน ด้วยวิธีซ่อมหลังคารั่วยังไงให้เวิร์ค
ป้องกันหลังคาบ้านจากปัญหารั่วซึม ต้องเลือกจระเข้ รูฟ ชิลด์
ภาพ: ประโยชน์ของจระเข้ รูฟ ชิลด์
เพื่อป้องกันหลังคาเซรามิกไม่ให้รั่วซึม ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายซ่อมแซมกันบ่อย ๆ ควรปกป้องด้วยจระเข้ รูฟ ชิลด์ อะคริลิกทากันซึมสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน ที่เป็นอะคริลิกคุณภาพสูง ทนทานต่อน้ำขังได้นานกว่าอะคริลิกทั่วไป ใช้งานง่ายเพียงเปิดฝาก็ใช้ได้ทันที เมื่อแห้งตัวจะมีลักษณะเหมือนแผ่นยางบาง ๆ ช่วยป้องกันน้ำซึมผ่าน ใช้ได้ทั้งกับพื้นที่กว้างและรอยต่อบนหลังคา ไปจนถึงรอยแตกเส้นเล็กไม่เกิน 1.5 มม. ด้วย
- ยืดหยุ่นตัวสูงกว่า 500% ปกปิดรอยแตกลายงาได้ดี ยึดเกาะกับวัสดุได้หลายประเภท เช่น คอนกรีต ปูนฉาก เหล็ก กระเบื้องมุงหลังคา ไม้ อิฐ และอื่น ๆ
- ใช้งานได้หลากหลายพื้น ไม่ว่าจะเป็นหลังคา รอยต่อบัวกันน้ำ ครอบสันหลังคา ผนังอาคาร
- ทนฝน ทนรังสี UV ตอบโจทย์การใช้งานภายนอกได้เป็นอย่างดี ผสมสีได้และทาสีทับได้
3 ข้อควรรู้เกี่ยวกับหลังคาเซรามิก
1. ใช้งบค่อนข้างสูง
หลังคาเซรามิกถือว่ามีราคาสูงกว่าหลังคาชนิดอื่น อยู่ที่ราคามาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 50-150 บาทต่อแผ่น และ 150-300 บาท สำหรับเซรามิกผิวเคลือบชนิดพิเศษ ถึงแม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณสูง แต่เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานที่ยาวนาน จึงเหมาะสำหรับใครที่มองหาวัสดุที่คุ้มค่าต่อการลงทุน
2. น้ำหนักเยอะ
สำหรับใครที่อยากจะเลือกใช้กระเบื้องหลังคาเซรามิก จะต้องออกแบบโครงสร้างให้รองรับน้ำหนักได้ดีขึ้น เพราะแผ่นกระเบื้องเซรามิก 1 แผ่นมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 กิโลกรัม ควรจะปรึกษาวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อออกแบบโครงสร้างให้รับน้ำหนักอย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาความเสียหาย และปัญหาการทรุดตัวในระยะยาว
3. ต้องใช้โครงสร้างแข็งแกร่ง
ด้วยน้ำหนักกระเบื้องหลังคาเซรามิกที่ค่อนข้างเยอะ จึงต้องใช้โครงสร้างที่แข็งแรงพิเศษ เช่น โครงเหล็ก โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่รองรับน้ำหนักได้ดี จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาหลังคาทรุดหรือแตกร้าวในอนาคต ดังนั้นการติดตั้งหลังคาเซรามิกต้องมีการวางแผนอย่างละเอียด และควรปรึกษาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้โครงสร้างมีความมั่นคงและปลอดภัย
กระเบื้องหลังคาเซรามิกถือเป็นอีกหนึ่งวัสดุที่น่าสนใจ ด้วยดีไซน์ที่สามารถปรับให้เข้ากับสไตล์บ้านได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยความแข็งแรงทนทานที่ใช้งานได้ยาวนานหลายสิบปี อีกทั้งยังมีข้อดีในเรื่องการดูแลรักษาที่ง่าย ช่วยให้บ้านสวยและคงความสมบูรณ์แบบไปอีกนาน
นอกจากหลังคาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของบ้าน จระเข้ก็มีผลิตภัณฑ์กันซึมช่วยปกป้องบ้านตั้งแต่หลังคาจนถึงชั้นใต้ดิน จะเป็นซีเมนต์กันซึม อะคริลิกกันซึม เทปซีล หรือซีลแลนท์ ก็มีให้เลือกครบทุกจุด
ชมผลิตภัณฑ์กันซึมจระเข้ สั่งซื้อผลิตภัณฑ์กันซึมจระเข้
อยากได้ผลิตภัณฑ์จระเข้มาดูแลบ้าน ลองเข้าไปหาตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันได้ที่เว็บไซต์จระเข้ เพียงเลือกภูมิภาค จังหวัด และเขตหรืออำเภอ เพียงเท่านี้ก็จะรู้แล้วว่าร้านค้าแถวบ้านร้านไหนที่มีสินค้าคุณภาพรออยู่ หรือจะลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราดูก่อนก็ได้ ว่าจะเลือกผลิตภัณฑ์แบบไหนดี ให้ตอบโจทย์บ้านของเรามากที่สุด